การใช้พริกหยวกในการแพทย์พื้นบ้าน คุณสมบัติทางเภสัชวิทยาและการประยุกต์ใช้ ผงวิตามินเสริมความแข็งแรง

ในหน้านี้เราจะบอกคุณทุกอย่างเกี่ยวกับพริกไทย พันธุ์ การปรุง และอื่นๆ อีกมากมาย

Chushkata luta, pak luta (สุภาษิตบัลแกเรียเกี่ยวกับพริกไทย)

ไพเพอร์บัลแกเรีย

ลองคิดดูว่าผลไม้ชนิดใด (หรือเบอร์รี่?) พริกไทยบัลแกเรียคืออะไรและกินกับอะไร ;-)

ในชื่อหน้าฉันเขียนว่า "Bulgarian Pepper" ในภาษาบัลแกเรียฟังดูและแปลว่า "Bulgarska Piper" หากคุณแปลตามคำพูดก็เป็นเช่นนั้น แต่ในความเป็นจริงพวกเขาพูดต่างกันเกี่ยวกับพริกหยวกในบัลแกเรีย และแม้แต่นักแปลของ Google เมื่อแปลจากภาษาบัลแกเรียเป็นภาษารัสเซียก็จะให้คำว่า "คนเป่าปี่" โดยไม่คำนึงถึงคำว่า "ภาษาบัลแกเรีย" เช่นเดียวกับสิ่งอื่น ๆ จากภาษารัสเซียเป็นภาษาอังกฤษผู้แปลก็จะให้คำว่า "คนเป่าปี่" ด้วย คำว่า "บัลแกเรีย" บัลแกเรียชื่ออะไรและไม่เพียง แต่พริกไทยในประเทศต่างๆ? ชาวอเมริกันและชาวอังกฤษเรียกเขาว่า - พริกไทยเพิ่มสีของพริกแดง (พริกแดง) พริกเขียว (พริกเขียว) ชาวออสเตรเลีย ชาวมาเลเซีย และชาวนิวซีแลนด์ - พริก (จากชนเผ่าทางชีววิทยา - Capsicum Solanaceae) ยุโรปเรียกพริกไทยว่าเป็นเครื่องเทศ - ปาปริก้า ในฮอลแลนด์ การใส่สีจะกลายเป็น - grouene paprika ถ้าสีเขียวและ gele paprika ถ้าพริกเหลือง ในฝรั่งเศส พริกไทยดูเหมือน - poivron, piment ในบราซิล - พริกไทย pimentão ในอาร์เจนตินา พริกหยวก - morron และในอียิปต์ พริกเขียว - filfil akhdar

ทำไมต้องพริกหยวก?

พริกไทยบัลแกเรียเรียกว่าเฉพาะในรัสเซียหรือในที่โล่ง อดีตสหภาพโซเวียตประชากรที่พูดภาษารัสเซีย และทั้งหมดเป็นเพราะก่อนหน้านี้ในยุคสังคมนิยมที่พัฒนาแล้ว ในสหภาพโซเวียต บัลแกเรียเป็นผู้จัดหาพริกไทยหลัก ดังนั้น ชื่อภาษาพื้นเมืองพริกไทย - พริกหยวก อย่างไรก็ตามในสหภาพโซเวียตไม่เพียง แต่เรียกพริกไทยว่าบัลแกเรียเท่านั้น แต่ยังเรียกอีกอย่างว่าเครื่องบดมุมซึ่งนิยมเรียกว่า "บัลแกเรีย" ทีนี้มาดูกันว่าวิกิพีเดียที่รอบรู้เกี่ยวกับพันธุ์พริกไทยบอกอะไรเราบ้าง

สกุลและชนิดของพริกไทย (รวมถึงพริกหยวก)

มีรสขมเผ็ด (และมาก!) และหวาน โดยรวมแล้ว "พริก" เป็นพืชสกุล "หนึ่งโหล" ประมาณ 1,500 สายพันธุ์! (ว้าว dofiga เป็นอย่างไร) ฉันจะพยายามแสดงรายการสกุลหลักและประเภทของพริกไทยซึ่งเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่าไพเพอร์ (ภาษาละติน) และถ้าเป็นเพียงพริกไทย:

พริกไทยเป็นพืชสกุลหนึ่งของตระกูล Pepper ซึ่งมีมากกว่า 1,500 ชนิด ตั้งแต่สมุนไพรไปจนถึงไม้พุ่มและเถาวัลย์

ส่วนใหญ่เติบโตในเขตร้อนเช่นเดียวกับในอเมริกาเขตร้อนและเอเชียตะวันออก อย่างไรก็ตามพริกหยวก "ของเรา" ใช้ไม่ได้ที่นี่ คุณสมบัติอีกอย่างของพริก (เรียกอีกอย่างว่า "คนแกร่ง" ไม่ใช่เพื่ออะไร) คือพวกมันมักจะครองพืชที่เหลือ ผลของพืชพริกไทยมักมีรูปร่างกลมคล้ายเมล็ดถั่วและถูกเลี้ยงโดยธรรมชาติโดยนกหลายชนิด สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก (จะไม่กินเผ็ดได้อย่างไร) ฉันจะแสดงรายการเพียงส่วนหนึ่งของ 1,500 สายพันธุ์ของพริกไทย:

ไพเพอร์นิโกร

พืชที่มีชื่อเสียงที่สุดที่ปลูกเพื่อผลของมัน เครื่องเทศบริโภคได้ทั้งในรูปของถั่วและแบบบด จะเติบโตในอินเดียในรูปแบบของเถาวัลย์สูงถึง 15 เมตรออกผลปีละ 2 ครั้งเป็นเวลา 25-30 ปี สารฉุนในพริกไทยคืออัลคาลอยด์ไพเพอรีน (5-9%) เพิ่มความอยากอาหาร ส่งเสริมการย่อยอาหาร

คิวบา

Piper cubeba ใช้น้อยลงทั้งในยุโรปและรัสเซีย มันเติบโตเป็นไม้พุ่มปีนเขาในอินโดนีเซีย - บนเกาะชวา สุมาตรา และบอร์เนียว หอมที่สุดในบรรดาพริกที่มีอยู่ ชาวอินเดียโบราณใช้มันในยาพื้นบ้านเพื่อรักษาทางเดินปัสสาวะ ปัจจุบันในยุโรปใช้ในเภสัชกรรม แทนที่จะเป็นไพเพอรีน (แบล็กพี) จะมีคิวบ์บินและเอสเซ้นส์ (12%) ที่มีกลิ่นของการบูร

คาวา คาวา หรือของมึนเมา

Piper methysticum- พืชที่น่าสนใจซึ่งใช้ราก ชาวโพลินีเชียนเคี้ยวรากของพริกไทยนี้มานานกว่า 2,000 ปีแล้ว ซึ่งมีผลทำให้มึนเมา ชาจากพืชชนิดนี้เป็นที่นิยมมากในอเมริกา เนื่องจากมีผลทำให้สงบและเป็นยาชูกำลัง ในทางการแพทย์ สารสกัดจากรากมีผลทำให้สงบและสะกดจิต

ฉันกินมันและหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง คุณจะหลับสนิท และเมื่อคุณตื่นขึ้น คุณจะรู้สึกว่าคุณหลับไป มีพลังและกระฉับกระเฉง แต่มักจะใช้ไม่ได้ สารสกัดทำมาจากแอลกอฮอล์ เอทานอล หรืออะซิโตน โดยไม่ใช้น้ำ จากนี้ไปส่งผลกระทบต่อตับเพราะในหลายประเทศ: ยูเครน, รัสเซีย, สารสกัดจากพริกไทยคาวา-คาวาเป็นสิ่งต้องห้าม และในรัสเซีย โดยทั่วไปจัดเป็นสารที่มีศักยภาพและเป็นพิษ การซื้อจะถือเป็นการลักลอบนำเข้า

พริกไทยเม็ดยาว

Piper longum - เช่นเดียวกับที่คิวบ์บามาจากอินโดนีเซีย และเช่นเดียวกับพริกไทยดำที่มีสารพิเพอรีน ผลมีขนาดยาว (ผลครึ่งขีด) ใช้ในอินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เป็นเครื่องเทศ

ลอต

Piper lolot - เครื่องเทศหายากชนิดเดียวกันในยุโรป ส่วนใหญ่ใช้โดยชาวเวียดนาม ชาวไทย ชาวลาวใช้ใบ พวกเขาห่อเนื้อในการปรุงอาหารหรือยาเพื่อป้องกันงูกัดเพื่อรักษาอาการอักเสบอาหารไม่ย่อย

พริกเป็นพืชตระกูล Solanaceae (Kende Capsicumaceae)

พริกเหล่านี้เป็นเหมือนโคลน (ขออภัยสำหรับการเปรียบเทียบ) และผัก (พริกหยวกเป็นของพวกเขา), พริกป่น (พริก, ร้อน, ขม), เบอร์รี่, จีน (ฮาบาเนโร), ถั่วพู ชื่อสามัญของพริกเหล่านี้คือพริก มีตั้งแต่ 31 ถึง 40 ประเภท:

พริกแดงร้อนหรือที่เรียกว่าพริก


Piper annuum - รสไหม้ของฝักเล็ก พริกป่น, ที่สุด พันธุ์เผ็ดเรียกว่าพริก ชิลีไม่ได้มาจากประเทศชิลี แต่มาจากภาษาแอซเท็ก และพริกแปลว่าสีแดง มันฉุนกว่าผักจากแคปไซซิน พริกแดงมีวิตามินซี, A, B, โพแทสเซียม, แมกนีเซียม, เหล็กจำนวนมาก หากคุณกัดมากเกินไป พริกขี้หนูถ้าอย่างนั้นก็ไร้ประโยชน์ที่จะดื่มน้ำด้วยความรู้สึกแสบร้อนคุณต้องดื่มนมหรือกินโยเกิร์ต ในทางการแพทย์มีการทำพลาสเตอร์พริกไทย ใช้พริกแดงสำหรับอาการช็อก หัวใจวาย เลือดออก โดยเฉพาะในกระเพาะอาหาร การไหลเวียนไม่ดีในขาได้รับการรักษาด้วยการอาบน้ำพริกไทยร้อน

พริกจีนคือฮาบาเนรอส

Piper chinense เป็นผลไม้ขนาดเล็กที่มีรูปร่างผิดปกติ ซึ่งมีความคมที่สุดในบรรดาพืชตระกูลถั่ว นักวิทยาศาสตร์เชื่อผิดว่าพริกหยวกมาจากประเทศจีนเพราะฉะนั้นชื่อนี้ แต่บ้านเกิดของมันคืออเมริกาใต้ เติบโตอย่างอิสระในบราซิล โคลอมเบีย เม็กซิโก และแคริบเบียน ชอบสภาพอากาศแบบเขตร้อน

ผักพริกไทย

Piper annuum - นี่คือพริกไทยบัลแกเรียนอกจากนี้ยังมีหลายพันธุ์ทั้งหวานและขม ( รสเผ็ดจากแคปไซซิน) บ้านเกิดของพริกหยวกผักไม่ใช่บัลแกเรีย แต่เป็นอเมริกาซึ่งเติบโตอย่างดุเดือดในเขตร้อน


การปลูกพริกหวาน

อุณหภูมิที่เหมาะสมในการปลูกพริกหยวกคือ 18 - 25 องศา พริกชอบดินที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง (เช่น ในบัลแกเรีย) และความชื้น พริกหวานในระดับอุตสาหกรรมมีส่วนร่วมในยูเครน, คอเคซัสเหนือ, Transcaucasia, มอลโดวา, เอเชียกลางและตามธรรมชาติในบัลแกเรีย ในรัสเซียส่วนใหญ่ปลูกในแปลงครัวเรือนและในกระถางที่บ้าน (ผลเล็ก) เป็นไปได้มากว่าพริกหยวกจะเติบโตในเรือนกระจกและเรือนกระจกปลูกด้วยต้นกล้าหรือในที่ที่มีเมล็ดอุ่นกว่า มีการปลูกพืช 40-60,000 ต้นต่อ 1 เฮกตาร์ พริกไทยร้อนเก็บเกี่ยวปีละ 2 ครั้ง เก็บเกี่ยวได้ 200 เซ็นต์ต่อเฮกตาร์ พริกหวานเก็บเกี่ยวได้ 4 ถึง 15 ครั้งต่อฤดูกาล โดยให้ผลผลิตสูงถึง 300 เซ็นต์ต่อเฮกตาร์ ศัตรูพืช: แคราดริน, มะเขือเทศหรือสำลี, ไส้เดือนฝอย, เน่า, ไวรัส ผลไม้ที่พบมากที่สุดคือผลไม้ขนาดใหญ่ หนา เหลี่ยมมาก มีสีต่างๆ คือ แดงสด เหลือง เขียว และขาว (สุก ผลไม้สีเขียว). ในบัลแกเรียผลไม้ชนิดนี้เรียกว่า - หมู!

พันธุ์พริกไทยบัลแกเรีย

ในบัลแกเรียพริกหยวกพันธุ์ต่อไปนี้ใช้กันอย่างแพร่หลาย:

  • กัมบะ
  • คาเปีย
  • ซิวเรีย
  • ราวนด์
  • ลิ่ม Chorbadzhiysk

สีพริกหยวก

พริกอาจเป็นสีแดง เหลือง ส้ม เขียว ม่วง และแทบจะไม่เกือบดำเลย อันไหนดีกว่ากัน?
พริกหยวกไม่สุกดังนั้นรสชาติอาจเปรี้ยวและขมเล็กน้อย พริกหยวกไม่เหมาะสำหรับการปรุงสตูว์ผัก การทำอาหารเขาอาจจะขมขื่นเล็กน้อย พริกเขียวมีไฟโตสเตอรอลมากที่สุดซึ่งช่วยลดระดับ คอเลสเตอรอลที่ไม่ดีในเลือดของมนุษย์ นอกจากนี้ยังมีแคลอรี่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับพริกสีอื่นๆ

ผลไม้สีแดงมีรสหวานกว่าผลไม้อื่นๆ นอกจากนี้ พริกแดงมีวิตามินซีมากที่สุด พริกแดงกลายเป็นสีแดงเพราะมีแคโรทีนและไลโคปีนในปริมาณมาก

ใน พริกส้มน้อยกว่าในพริกแดงธาตุซีเล็กน้อย

พริกเหลืองมีแคโรทีนอยด์จำนวนมากซึ่งให้ สีเหลือง. ใน พริกเหลืองโพแทสเซียมมีมากกว่าดอกพริกหยวกชนิดอื่นๆ ขอแนะนำสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ และสีเหลืองมีปริมาณฟอสฟอรัสมากกว่าสีอื่นๆ (สำหรับกระดูก ไต และการเจริญเติบโตของเซลล์)

ผลไม้สีม่วงเข้มและสีดำสนิทมีรสเหมือนสีเขียว คุณต้องกินพริกสด เพราะเมื่อนำไปผัดหรือตุ๋นจะกลายเป็นสีเขียว

เกือบดำไม่ดำขนาดนั้น พริกไทยแท้ซึ่งเติบโตในอินเดียและประเทศที่อบอุ่นอื่น ๆ และจากที่พวกเขาเตรียมมาก เครื่องเทศร้อน(เครื่องเทศเตรียมจากพริกไทยขาวด้วย)

พริกหยวกทุกสีเหมาะสำหรับการบริโภคสดและในสลัด

ส่วนประกอบของพริกหยวก

พริกหยวกใน 100 กรัม ประกอบด้วย - 20 แคลอรี่ โคเลสเตอรอล 0 มก. วิตามินซี 80 มก. (สูงสุดไม่เกิน 500 มก.), คาร์โบไฮเดรต (แคปไซซิน, น้ำตาล 2.4 กรัม) 4.6 กรัม, โปรตีน 0.9 กรัม, แคโรทีน 14 มก., แคลเซียม 10 มก., วิตามิน P, B1, B2, จำเป็น (1, 5% ) ไขมัน 0.2 กรัม ( น้ำมันไขมันในเมล็ดมากถึง 10%) ต้องบอกว่าเกี่ยวกับวิตามินที่พวกเขาไม่ได้เป็นแหล่งพลังงานสำหรับร่างกายของเรา พวกเขาเพียงแค่ควบคุมการเผาผลาญมีส่วนร่วมในกระบวนการทางเคมีต่างๆ ของร่างกาย จึงทำให้ร่างกายทำงานได้อย่างถูกต้องและทำให้ป่วยน้อยลง นอกจากนี้ วิตามินสามารถละลายน้ำได้ (นี่คือ C และวิตามิน B ทั้งหมด) และละลายได้ในไขมัน (นี่คือ A, E, D, K) อินเทอร์เน็ตเต็มไปด้วยข้อมูลเกี่ยวกับวิตามิน

ให้เราอาศัยวิตามินซีซึ่งมีมากในพริกหยวกเท่านั้น ธาตุ C เกี่ยวข้องกับกระบวนการหายใจของผิวหนัง การแลกเปลี่ยนบล็อกโปรตีน และช่วยในการดูดซึมคาร์โบไฮเดรต "C" เรียกอีกอย่างว่ากรดแอสคอร์บิก วิตามินแอนติคอร์บิวทิก วิตามินแอนติคอร์บิวทิก กรดแอสคอร์บิกเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย รักษาคอลลาเจน - โปรตีนที่เป็นพื้นฐานของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (เสริมสร้างหลอดเลือด, เส้นเอ็นของมนุษย์) "C" ทำให้คอเลสเตอรอลในกระแสเลือดของเราเป็นปกติ ช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กและทำให้เลือดเป็นระเบียบ นอกจากนี้ยังช่วยให้ร่างกายผลิตอะดรีนาลีน ดังนั้น โดยเฉลี่ยแล้วคนเราต้องการตั้งแต่ 30 มก. (ทารก) ถึงประมาณ 110 มก. (หญิงตั้งครรภ์มีการขาดวิตามินซีประมาณ 65% ในระหว่างตั้งครรภ์)

เราต้องการ "C" มากแค่ไหน ผลิตภัณฑ์ต่างๆ? ประการแรกคือโรสฮิปซึ่งมีประมาณ 470 มก. (ในแห้งมากถึง 1200 มก.) แต่อันดับที่สองที่มีเกียรตินั้นถูกครอบครองโดยพริกหยวกที่เราโปรดปราน 250 มก. จากนั้นแบล็คเคอแรนท์และทะเล buckthorn อย่างละ 200 มก. ตามมาด้วยอันดับที่สามจากนั้นมะนาวผักชีฝรั่งที่เหลือทั้งหมด เห็ดพอร์ชินีแห้ง กะหล่ำดาว ผักชีฝรั่ง กระเทียมป่า ขี้เถ้าแดง ฯลฯ ปริมาณขึ้นอยู่กับผัก 100 กรัม โปรดทราบว่าพริกหวานสีแดงมีวิตามินซีมากกว่าพริกหวานสีเขียว และวิตามินซีในเมล็ดและข้างก้านมีวิตามินซีมากกว่า

และโดยทั่วไปใช้ ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติเย็นกว่าอาหารเสริมที่โฆษณาต่างๆ แต่การใช้ผลิตภัณฑ์สด (รวมถึงพริกหยวก) นั้นถูกต้องกว่าซึ่งมีวิตามินซีมากกว่าของที่ผ่านกระบวนการทางความร้อน

ฉลาดแค่ไหนในการเก็บวิตามินซีไว้ พริกหยวก? ศัตรูหลักคือออกซิเจนเพราะถ้าคุณให้ความร้อนกับพริกไทยให้ลดการเข้าถึงออกซิเจน - ปิดฝาไขมันยังป้องกันไม่ให้ออกซิเจนเข้าไปข้างในการปรุงอาหารใช้เวลาไม่นาน พยายามปรุงพริกไทยทั้งผลโดยไม่ต้องหั่นเพราะเมื่อหั่นผลไม้ออกซิเจนจะทำลายวิตามิน อีกประการหนึ่ง ในสภาพแวดล้อมที่เป็นด่างและเป็นกลาง วิตามินจะถูกทำลายมากกว่าในสภาพแวดล้อมที่เป็นกรด พริกไทยค่ะ กะหล่ำปลีดองแอปเปิ้ลกักเก็บวิตามินซีได้ดีกว่าและอย่าเก็บพริกไว้ในน้ำนาน ๆ ยังเป็นศัตรูตัวฉกาจของวิตามินอีกด้วย ศัตรูตัวสุดท้ายที่ลืมพูดถึงคือ การสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่ต้องได้รับวิตามินซีเพิ่มเพื่อให้ร่างกายเป็นปกติ

การเก็บรักษาพริกไทย:

ดองพริก:

  • Adjika กับพริกหยวก
  • พริกหวานดอง

เครื่องปรุงรสพริกไทย:

พริกหยวกย่าง:

พริกไทยสำหรับฤดูหนาว

พริกไทยสดที่อยู่ในตู้เย็นสามารถอยู่ได้สูงสุดหนึ่งสัปดาห์ในขณะที่มันจางหายไป คุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ของมันลดลง คำถามต่อไปนี้เกิดขึ้นอย่างสมเหตุสมผล วิธีการเตรียมและเก็บพริกไทยสำหรับฤดูหนาว? สูตรหนึ่งสำหรับทำพริกเมื่อคุณมีเพียงพอคือ:

เรานำพริกหยวกและตัด "ฝา" ออกจากนั้นเราจึงหวีเมล็ดในซากพริกไทยออกในขณะที่พยายามเก็บซากพริกไทยไว้ หลังจากนั้นเราลดช่องว่างลงในน้ำเดือดเป็นเวลาครึ่งนาทีเพื่อไม่ให้พริกคงรูปไม่งอบนพื้นไม่แตก หลังจากที่ซากพริกเย็นลงแล้ว เราจะใส่ซากพริกอีกอันหนึ่งเข้าไป เพื่อให้พวกมันใช้พื้นที่น้อยลงและได้รับการเก็บรักษาไว้ดีกว่า จากนั้นเราก็ใส่ซากพริกไทยเป็นแถวยาวพร้อมกับ "ฝา" ในถุงที่สะอาด (ควรแน่นกว่านี้) แล้วใส่ในช่องแช่แข็ง

ในเวลาเดียวกันให้คำนึงถึงปัจจัยดังกล่าว - แพคเกจควรมีส่วนที่คุณต้องการเพื่อไม่ให้หยุดส่วนที่เหลือเป็นครั้งที่สอง การแช่แข็งซ้ำจะฆ่าจำนวนมาก องค์ประกอบที่มีประโยชน์ในพริกไทย ทุกอย่างในฤดูหนาวคุณสามารถละลายน้ำแข็งได้ (ดีกว่าเมื่อนานขึ้น อุณหภูมิห้องและไม่ใช่ในไมโครเวฟและไม่ใช่ในน้ำ) และปรุงอาหารจานโปรดของคุณจากพวกเขารวมถึงการบรรจุซากทั้งหมดและมีฝาปิด

พริกหวานอบแห้ง

พริกแห้งได้อย่างสมบูรณ์แบบทั้งร้อนและหวาน ดูเกี่ยวกับการอบแห้งพริกหวาน หน้านี้อธิบายวิธีการอบแห้งพริกหยวกหวานและนำเสนอวิดีโอ

สำหรับคำถามที่ว่าพริกหยวกเกิดที่ไหน ? ใครพามา.? มอบให้โดยผู้เขียน อะไรอยู่แล้ว.คำตอบที่ดีที่สุดคือ พริกไทยถือเป็นผักที่เก่าแก่ที่สุดในอเมริกา เมล็ดของมันถูกค้นพบเมื่อ 5,000 ปีที่แล้ว ประเทศต้นกำเนิดของพริกไทย - เปรู นอกจากข้าวโพด ถั่ว และสควอชแล้ว ยังเป็นหนึ่งในผักหลักในอเมริกายุคก่อนโคลัมบัส พริกไทยถูกนำไปยังยุโรปโดยแพทย์คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส เริ่มต้นในศตวรรษที่ 16 พริกไทยได้แพร่กระจายไปทั่วยุโรปและพบในอาหารเมดิเตอร์เรเนียนและบอลข่าน นอกจากนี้พริกไทยยัง ผักประจำชาติและเครื่องเทศของชาวฮังกาเรียน
โคลัมบัสพยายามครั้งแรก พริกผักไปยังเฮติในปี ค.ศ. 1493 และนำผลไม้บางส่วนไปยังยุโรป ในศตวรรษที่ 16 วัฒนธรรมของพริกไทยผักได้แพร่กระจายไปยังคาบสมุทรบอลข่าน แอฟริกา และอินเดีย เป็นที่ดึงดูดใจของชาวเอเชียให้ เครื่องเทศร้อนทำให้วัฒนธรรมนี้แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
ปัจจุบัน อินเดียเป็นซัพพลายเออร์หลักของพริกผักหลากหลายชนิดทั้งร้อนและหวาน ในยุโรป - ในสเปน, ฮังการีและบัลแกเรีย - เป็นที่ต้องการของพริกไทยผักหวาน นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงมีสำนวน "พริกหยวกหวาน" อย่างที่เราเห็น เรากำลังพูดถึงเกี่ยวกับพริกหวานผักซึ่งเรียกอีกอย่างว่าพริกขี้หนู ด้วยรสชาติที่มีคุณค่าและสีสันที่สดใสสวยงาม พริกไทยจึงเป็นอาหารอันโอชะที่ชื่นชอบในหลายๆ ประเทศ แม้กระทั่งประเทศทางตอนเหนือ พริกมีวิตามินซีมากกว่าผักอื่นๆ ผลพริกไทยแตกต่างกันทั้งรูปร่างและสี

คำตอบจาก คนผิวขาว[กูรู]
อาจจะเป็นบัลแกเรีย?


คำตอบจาก เย็น[กูรู]
พริกไทยเป็นเครื่องเทศที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ที่สุดในโลก ในภาษารัสเซีย คำว่า "พริกไทย" กลายเป็นชื่อรวมของเครื่องเทศทั้งหมด ("เผ็ด" - ขนนก, พริกไทย) เนื่องจากพริกไทยดำเป็นเครื่องเทศต่างประเทศชนิดแรกที่ปรากฏในมาตุภูมิ
พริกขี้หนูลาด. Capsicum annuum เป็นผลไม้ของพืชผักล้มลุกในตระกูลราตรี บ้านเกิดของพริกที่ไม่เผ็ดซึ่งเรามักเรียกว่าบัลแกเรียหรือหวานคืออเมริกากลาง ผ่านสเปนเขาไปถึงยุโรปและใช้กันอย่างแพร่หลายในฐานะผักและในรูปแบบพื้นดิน - เป็นเครื่องปรุงรส จนถึงทุกวันนี้ พริกหวานหลากหลายชนิดมีอยู่ทั่วไปในเม็กซิโก โคลอมเบีย และอเมริกากลาง
อันดับแรก ประเทศในยุโรปซึ่งเริ่มสร้างความอยากรู้อยากเห็นในต่างประเทศคือสเปน และพริกไทยได้ชื่อที่คุ้นเคยด้วยผลงานของนักเพาะพันธุ์ชาวบัลแกเรียผ่านความพยายามในการขยายพันธุ์ที่หวานและมีผลใหญ่
สำหรับโคลัมบัส จุดประสงค์ของการเดินทางคือหาทางลัดไปยังอินเดีย และชาวยุโรปไปอินเดียเพื่อซื้อเครื่องเทศซึ่งในยุคกลางมีค่าเท่ากับทองคำ ราชวงศ์ของยุโรปรวมถึงตระกูลผู้ดีและร่ำรวยพร้อมที่จะให้สิ่งแปลกใหม่และแปลกใหม่มากมาย รสชาติแปลกใหม่. โดยมากแล้ว มันคือการค้นหารสชาติใหม่ๆ ที่นำชาวยุโรปมาสู่อเมริกา และแม้ว่าอเมริกาจะไม่ใช่อินเดีย แต่ก็มีหลายอย่างที่สามารถทำให้เมนูอาหารสเปนมีความหลากหลายได้
เครื่องเทศหลักที่ชาวอินเดียใช้คือพริก ในเม็กซิโกมีหลายพันธุ์
พริกขึ้นชื่อเรื่องความเผ็ดร้อน หลายสายพันธุ์มีรสชาติของเทอร์โมนิวเคลียร์ แต่ในขณะเดียวกันก็มีความนุ่มนวลหวานและ พันธุ์ที่มีกลิ่นหอม. รวมแล้วมีมากกว่า 140 ชนิดต่างๆพริกตั้งแต่ "อบาเนโร" ที่ชั่วร้ายไปจนถึงพันธุ์หวานเช่นบัลแกเรียที่คุ้นเคย
พริกหยวก (พริกแดงฟลอริดาหรือบัลแกเรีย) มีมากที่สุด รสชาตินุ่มนวลในบรรดาพริกแดง
ชาวแอซเท็กใช้พริกเพื่อทำเครื่องดื่มช็อกโกแลตที่ทำจากเมล็ดโกโก้และวานิลลา เครื่องดื่มของชาวอินเดียแท้ๆนั้นลวกและไม่หวานเลย
ความสับสนในชื่อย้อนกลับไปในอดีต ก่อนการค้นพบอเมริกา ชาวสเปนรู้จักพริกไทยดำซึ่งนำเข้ายุโรปจากอินเดีย ดังนั้นพริกซึ่งยังมี รสไหม้พวกเขาเรียกอีกอย่างว่าพริกไทยแม้ว่าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพริกไทยดำก็ตาม พริกแดงทุกพันธุ์ (หรือพริกตามที่เรียกพริกแดงชนิดต่างๆ) พริกชี้ฟ้าในเม็กซิโกและอเมริกา) อยู่ในสกุล Capsicum ของตระกูล nightshade ในยุโรป พริกแดงมีรากฐานมาจากคาบสมุทรบอลข่าน คำว่า "ปาปริก้า" ในภาษาฮังการีเรียกว่าพริกแดงในภาษายุโรปหลายภาษา หลากหลายหวานพริกแดงซึ่งปัจจุบันเราเรียกว่าบัลแกเรียถูกเรียกว่า "ตุรกี" ในรัสเซียในศตวรรษที่ 19
ตอนนี้พริกแดงใช้ในเนื้อสัตว์ผักและ จานข้าว.
พริกหยวกใช้ปรุงรสอาหารด้วยเนื้อสัตว์ ปลา ผัก ชีส คอทเทจชีส และไข่ นั่นคือเกือบทุกอย่าง
พริกหยวกอุดมไปด้วยวิตามิน A, C, E, P, PP และวิตามิน B พริกหยวกมีแร่ธาตุ โพแทสเซียม แคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส ไอโอดีน และซิลิกอน เพียง 30-40 กรัม พริกไทยสดจัดเตรียม ความต้องการรายวันคนในวิตามินเหล่านี้ ดังนั้นพริกหยวกหวานจึงขาดไม่ได้สำหรับการรักษาและป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดและ โรคอักเสบภาวะซึมเศร้าและโรควิตามิโนสิส ใช้เป็นประจำพริกหวานช่วยปรับปรุงสภาพของผิวหนังและเส้นผม ทำให้เลือดบางลง และกระตุ้นความอยากอาหาร
พริกหยวกมีผลดีมากต่อการไหลเวียนโลหิตและช่วยรักษาโรคไขข้อ
สลัดพริกหยวก
สำหรับ 4 เสิร์ฟพริกไทยบัลแกเรีย - 4 ชิ้น ต้นหอม - 1 พวง, ผักใบเขียว -1 พวง, เกลือ, น้ำส้มสายชูรสชาติ
ปอกเปลือกพริกไทยบัลแกเรียออกจากก้านหั่นเป็นเส้นบาง ๆ ผสมกับสับ หัวหอมเขียว, สมุนไพรสับเกลือและปล่อยให้ยืนประมาณ 15-20 นาที สามารถเพิ่มน้ำส้มสายชูไวน์ลงในสลัดได้

พริกหวาน (เรียกอีกอย่างว่าผัก, บัลแกเรีย) - สินค้าสำคัญในครัวของเรา จะพบได้ทุกที่ในจานใด ๆ จะเป็นส่วนเสริมที่ยอดเยี่ยมและการตกแต่งที่มีประโยชน์

พืชที่สวยงามเป็นที่นิยมในหลายประเทศ และเป็นเรื่องยากที่สวนจะไม่มีผักอวบอ้วนที่น่ารับประทาน

ชาวสวนเราชอบปลูกพริกหวาน แตงกวาน้อยลงและมะเขือเทศ เพราะเป็นผักที่อร่อยและดีต่อสุขภาพที่สุดชนิดหนึ่งในอาหารของเรา

เรากินพริกหวานเพียง 40 กรัมเท่านั้น ปริมาณรายวันวิตามินซี.

เป็นเวลานานในประเทศของเราพริกไทยนี้หายากจริง ๆ และทั้งหมดเป็นเพราะสภาพอากาศของเราซึ่งไม่เหมาะกับมัน

แต่ด้วยความสำเร็จของผู้เพาะพันธุ์ พริกหวานจึงกลายเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับสวนของเรา

ชาวสวนส่วนใหญ่ปลูกพืชชนิดนี้ในเรือนกระจกและเรือนกระจก แต่พันธุ์ได้ถูกสร้างขึ้นสำหรับเลนกลางแล้ว

พริกไทย คุณมาจากไหน?

หลายคนเชื่อว่าเนื่องจากพริกไทยเป็น "บัลแกเรีย" บ้านเกิดของมันคือบัลแกเรียอันอบอุ่น แต่นี่ไม่เป็นความจริงทั้งหมดและพวกเขาเริ่มเรียกพริกไทยผักว่า "บัลแกเรีย" เพราะในประเทศนี้มีการเพาะพันธุ์พริกหวานพันธุ์ใหญ่

  • บ้านเกิดที่แท้จริงของพริกไทยของเราคืออเมริกา ในป่า พริกไทยยังคงเติบโตในพื้นที่ของอเมริกากลาง เม็กซิโก และโคลอมเบีย

ชาวยุโรปคนแรกที่เห็นสีแดง เหลือง เขียว ม่วง เงิน น่ารับประทาน ผลไม้สีส้มคือคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส

ในไม่ช้า คำอธิบายแรกของพริกไทยรูปแบบต่างๆ เริ่มปรากฏในยุโรป เป็นครั้งแรกที่เกษตรกรจากโปรตุเกสและสเปนพยายามปลูกมันในสวนของตน ชนชาติอื่น ๆ ของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเข้าร่วมกับพวกเขา

  • ตามที่นักโบราณคดี พริกหยวกเริ่มปลูกในพื้นที่อเมริกากลาง เปรู และเม็กซิโก เมื่อกว่า 6.5 พันปีก่อนคริสต์ศักราช ดังนั้นพริกไทยนี้ - ผักที่เก่าแก่ที่สุดซึ่งผู้คนใช้อย่างแข็งขัน

พริกหวานถูกนำไปยังรัสเซียในศตวรรษที่ 16 แต่มันแพร่หลายและได้รับความรักจากชาวสลาฟในศตวรรษที่ 17

พริกไทย "ภายใต้กล้องจุลทรรศน์"

พริกไทยเป็นไม้ยืนต้นในตระกูลราตรี แต่ชาวสวนปลูกเป็นประจำทุกปี (ถ้าย้ายพริกไป ช่วงฤดูหนาวในห้องที่อบอุ่น - มันจะเติบโตและพัฒนาต่อไปอย่างสงบ)

♦ รากพริกไทย ระบบรากพัฒนามากรากนั้นมีรูปแบบของแท่งที่มีกิ่งก้านด้านข้างจำนวนมาก

รากจะเติบโตได้ดีที่สุดก่อนเริ่มฤดูปลูกหลังจากนั้นการพัฒนาจะลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาของรากในดินเลนเรือนกระจก

  • พริกไทยมีความสามารถในการคืนรากที่อ่อนแอ ดังนั้นต้นกล้าจึงเติบโตโดยไม่ต้องเก็บในภายหลัง

♦ ลำต้นพริกหวานมีก้านเป็นหญ้าซึ่งกลายเป็นไม้ที่ส่วนล่างของพริกไทยแต่ละยอดจะออกผล

รู้ว่ายอดอ่อนมากดังนั้นเมื่อดูแลผู้ชายหล่อของคุณระวังอย่าให้เขาเสียหาย

พริกไทยมี 2 ชนิด มีลักษณะการเจริญเติบโตของลำต้นหลักแตกต่างกันคือ

  1. ตัวกำหนดการเจริญเติบโตของลำต้นหยุดลงอย่างสมบูรณ์หลังจากการก่อตัวของหน่อหลายใบ ประเภทนี้รวมถึงพริกสุกเร็ว
  2. ไม่แน่นอนในพืชเหล่านี้ ลำต้นจะเติบโตต่อไปจนกระทั่งสิ้นสุดฤดูปลูก แบบฟอร์มเหล่านี้รวมถึงสายพันธุ์ที่สุกงอม

นอกจากนี้ พริกไทยยังสามารถแบ่งย่อยตามการแตกกิ่งของลำต้นได้ดังนี้

  1. มาตรฐาน.มีลำต้นเพียงต้นเดียวแตกกิ่งเฉพาะส่วนยอดของลำต้นส่วนกลาง
  2. กึ่งมาตรฐานในส่วนล่างของลำต้นส่วนกลางจะมียอดเล็ก ๆ มากถึง 3 หน่อ
  3. เป็นพวงลำต้นเริ่มแตกกิ่งจากส่วนต่ำสุดและความยาวของกระบวนการด้านข้างอาจมากกว่าความสูงของพุ่มไม้มากกว่า½

♦ ดอกไม้.พริกหวานให้ดอกทั้งสองเพศ จำนวนทั้งหมดสามารถเข้าถึงได้มากกว่า 90-100 ชิ้น (ในบางสายพันธุ์มีเพียง 10-15 ชิ้นเท่านั้น)

พริกไทยเริ่มบาน 40-60 วันหลังจากงอก (ขึ้นอยู่กับพันธุ์) ดอกไม้บานก่อนอาหารกลางวัน (ในวันที่แดดจัดในตอนเช้าตรู่ ในวันที่มีเมฆมากในภายหลัง)

พริกไทยเป็นตัวผสมเกสรตัวเองบางส่วน (แมลงช่วยในการผสมเกสรของมัน)

คำแนะนำ. อย่าปลูกพริกหวานและพริกร้อนหลายพันธุ์พร้อมกัน - อาจเกิดการผสมเกสรและพริกหวานจะขม

♦ ผลไม้เราปลูกพริกเพื่อผลที่อวบอิ่มอร่อย ผลของพริกไทยเป็นผลเบอร์รี่เท็จซึ่งสามารถมีรูปร่างได้หลากหลาย: ทรงกลม, วงรี, ในรูปของปริซึม, ลูกบาศก์หรือกรวย

มวลของมันยังแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความหลากหลาย น้ำหนักของผลไม้มีตั้งแต่ 50 กรัมถึง 250 กรัมขึ้นไป ความหนาของผนังแตกต่างกันไประหว่าง 1-10 มม. เมล็ดพริกไทยสามารถคงความงอกได้นาน 2-3 ปี

พริกหยวกมีประโยชน์อย่างไร

♦ หมอพริกไทย.ไม่มีผักหลากหลายชนิดในโลกที่สามารถเปรียบเทียบได้ในแง่ของคุณประโยชน์กับพริกหยวก

แท้จริงแล้วเซลล์แต่ละเซลล์อิ่มตัวด้วยธาตุและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อมนุษย์ (เหล็ก โพแทสเซียม สังกะสี แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โซเดียม ไอโอดีน ฯลฯ)

ผักที่มีเอกลักษณ์นี้ยืนหยัดในการปกป้องระบบประสาทที่เชื่อถือได้ ปรับการไหลเวียนของเลือดให้เป็นปกติ ฟื้นฟูความยืดหยุ่นของหลอดเลือด ฟื้นฟูธาตุเหล็กสำรองในเลือด ทำให้เลือดบางลง และลดความดัน

  • อย่าลืมเพิ่มลงในอาหารของคุณเพื่อกำจัดการอักเสบที่น่าเกลียดบนผิวหนัง และสำหรับผู้สูงอายุเขาจะแข็งแรงขึ้น เนื้อเยื่อกระดูกช่วยเพิ่มความจำและชะลอการตายของเซลล์สมอง

สิ่งที่เราโปรดปรานมีส่วนช่วยในกระบวนการออกซิเดชั่นในร่างกายให้เป็นปกตินั่นคือมันช้าลงและป้องกันการเกิดเนื้องอกมะเร็ง

พริกยังดีต่อสุขภาพตาอีกด้วย นักกำหนดอาหารยินดีแนะนำการใช้พริกไทยด้วย อาหารต่างๆ- มันเก็บสำรองไฟเบอร์จำนวนมากซึ่งทำให้การเผาผลาญเป็นปกติด้วยเนื้อหาแคลอรี่ขั้นต่ำ

รับประทานพริกหวานพร้อมมื้ออาหารหากคุณเป็นโรคเบาหวาน แต่จะมีการเติมผงพริกไทยลงในเจล ขี้ผึ้งต่างๆ สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคปวดตะโพก โรคเกาต์ หรือโรคข้ออักเสบ

หญิงตั้งครรภ์ควรใส่พริกหวานในอาหาร - เป็นจำนวนมาก สารที่มีคุณค่ามันจะมีประโยชน์ทั้งสำหรับทารกและสำหรับการฟื้นตัวของมารดาหลังคลอด

คำแนะนำ. สารอาหารที่มีความเข้มข้นสูงสุดจะพบได้ที่บริเวณก้านพริกไทยและในเมล็ดของมัน ดังนั้นเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดควรดื่มน้ำจากผัก และที่นี่ การรักษาความร้อนเป็นการดีกว่าที่จะไม่เปิดเผยพริกไทย - มันจะสูญเสียเงินสำรองที่มีประโยชน์ไปครึ่งหนึ่ง

อันตรายของผู้ชายหล่ออ้วนพริกหวานมีข้อห้ามในตัวเอง! ควรจำกัดการรับประทานพริกไทยในกรณีที่มีแผลในกระเพาะอาหาร ริดสีดวงทวาร โรคกระเพาะ โรคร้ายแรงของไต ตับ โรคลมชัก โรคหลอดเลือดหัวใจ และความดันต่ำเกินไป

♦ พริกไทย-เสริมสวย.ความอุดมสมบูรณ์ของวิตามินของพริกหวานไม่ได้ทำให้แพทย์ผิวหนังไม่แยแส หลังจากทั้งหมดของมัน สารที่มีประโยชน์สามารถใช้ภายนอกได้

เป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้ทำหน้ากากพริกไทยและผลของมันจะเห็นได้ชัดเจนทันที

สำหรับผิวแห้ง ผสมกับพริกแดงสับละเอียด (2 ช้อนโต๊ะ) ไข่แดงที่ตีแล้ว 1 ช้อนโต๊ะ ครีมเปรี้ยวไขมัน. นำส่วนผสมมาพอกหน้าประมาณหนึ่งในสี่ของชั่วโมง แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น

หากผิวมันให้แทนที่ไข่แดงด้วยโปรตีนและครีมเปรี้ยวด้วย kefir เปรี้ยว

  • หากผิวของคุณเหนื่อยล้า มาสก์ที่ทำจากส่วนผสมของพริกสีสดใส ข้าวโอ๊ต (อย่างละ 2 ช้อนโต๊ะ) และน้ำผึ้งเหลว 1 ช้อนชาจะช่วยคืนความกระปรี้กระเปร่าให้กับผิว เก็บไว้บนใบหน้าของคุณ มวลหวาน 15-20 นาที

พริกไทยยังดีต่อเส้นผมสำหรับมาสก์ดังกล่าวคุณควรใช้พริกแดงสด

ต้องบดพริกไทยหนึ่งผลและผสมกับดินเหนียวสีน้ำเงิน (2 ช้อนโต๊ะ), kefir (2 ถ้วย), ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว. ใช้มวลกับเส้นผมห่อด้วยฟิล์มแล้วทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมง

Pepper จะคืนความหรูหรา สุขภาพดี และเปล่งประกายให้กับเส้นผมของคุณ

♦ เครื่องปรุงพริกไทย.ถึงกระนั้นพริกไทยก็ถูกเรียกว่า "บัลแกเรีย" ไม่ใช่เพื่ออะไร แต่ในประเทศนี้เป็นที่รักและเคารพเป็นพิเศษ

จากที่นั่นสูตรมากมายสำหรับการบรรจุพริกมาถึงเรา สิ่งที่พวกเขาไม่ทำกับมัน: ดอง, สตูว์, ใส่ในสลัด, สตูว์, ซุป, ย่าง, อบและทอด

พริกหวานเข้ากันได้ดีกับผลิตภัณฑ์ใด ๆ !

เล็กน้อยเกี่ยวกับพันธุ์

ที่ชื่นชอบของเราไม่เหมือนใคร พืชผักมีสีรูปร่างและรสชาติที่หลากหลายมาก และหากต้องการคุณสามารถเปลี่ยนเตียงพริกหวานให้เป็น "เตียงดอกไม้" หลากสีสันที่สวยงาม

พริกหวานมีหลายพันธุ์ เป็นการดีกว่าที่จะเลือกพวกมันสำหรับสวนของคุณโดยขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและภูมิภาค

เกษตรกรผู้ปลูกพริกหวานทุกประเภทแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามเงื่อนไข:

เงื่อนไขการทำให้สุก

  • เร็วมาก (เก็บเกี่ยวได้ถึง 100 วัน)
  • ต้น (ผลสามารถเก็บเกี่ยวได้ 100-120 วันหลังจากเกิด)
  • ต้น (พริกไทยจะปรนเปรอคุณด้วยการเก็บเกี่ยวใน 120-135 วัน)
  • สาย (ผลไม้สุกภายใน 135-150 วัน)
  • ล่าสุด (คงต้องรอ ผลไม้แสนอร่อยเกิน 150 วัน)

ความสูงของพืช

  • ขนาดเล็ก (ไม่เกิน 50 ซม.)
  • ความสูงปานกลาง (50-100 ซม.)
  • สูง (150-200 ซม.)

นอกจากนี้พริกหวานยังแบ่งออกเป็นประเภทที่ปลูกได้ดีที่สุดในสภาพเรือนกระจกและผักตัวหนาที่ไม่กลัวที่จะเติบโตในที่โล่ง

พันธุ์เรือนกระจกที่ดีที่สุด

พริกไทยบัลแกเรียมีถิ่นกำเนิดทางใต้ในสภาพอากาศของเรามันยังคงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะทำให้สุก - เรามีความร้อนและแสงแดดไม่เพียงพอ

ดังนั้นชาวสวนส่วนใหญ่จึงใช้โรงเรือนเพื่อปลูกพริกได้สำเร็จ และที่นี่เพื่อเลือก พันธุ์ที่เหมาะสมมันไม่ง่ายเลย - ดวงตาเบิกกว้างจากความอุดมสมบูรณ์ของสายพันธุ์ (มากกว่า 500 ชนิดถูกสร้างขึ้นสำหรับโรงเรือน)

จากความคิดเห็นของชาวสวนเราได้เลือกพริกไทยที่เหมาะสมและได้รับการพิสูจน์แล้วสำหรับการปลูกในสภาพเรือนกระจก:

♦ แอปริคอตของโปรดความหลากหลายเป็นของกลางฤดูและขนาดเล็ก สายพันธุ์นี้มีผลรูปทรงกรวย เงามันมาก และมีผนังหนา (ขนาดเปลือกได้ถึง 7 มม.)

น้ำหนักของผลไม้สามารถเข้าถึงได้ 120 กรัมพริกหวานนี้มีความฉ่ำมากสามารถผูกผลไม้ได้ถึง 20 ผลในพุ่มไม้เดียวซึ่งจะทำให้สุกในเวลาเดียวกัน

  • สีของพวกเขาน่าสนใจ - เมื่อพริกไทยถึงวุฒิภาวะทางเทคนิคผลไม้จะมีสีเขียวอ่อนเมื่อสุกเต็มที่จะกลายเป็นสีส้มแอปริคอต

♦ แอตแลนติกพุ่มไม้เติบโตได้ถึง 80 ซม. - นี่คือ ตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับสภาวะเรือนกระจกภายใต้ฟิล์ม ความหลากหลายคือผลผลิตสูงและกลางฤดู

พริกได้มาจากแอตแลนตายาวรูปทรงลูกบาศก์เนื้อกรอบฉ่ำมาก ผักสุกมีสีแดงเข้ม

พริกหวานดังกล่าวไม่กลัวโรคและสามารถใช้ในการทำอาหารได้

♦ เบลลาดอนน่า F1.เมื่อพูดถึงพริกพันธุ์ต่าง ๆ เราจะไม่ลืมเกี่ยวกับลูกผสมที่ประสบความสำเร็จ พันธุ์ลูกผสมนี้เป็นพันธุ์ต้นและพันธุ์ที่มีผนังหนา (ความหนาของผนัง 8 มม.)

แม้ว่าผลไม้จะมีขนาดไม่ใหญ่นัก (มีมวลถึง 150 กรัมเท่านั้น) แต่รสชาติก็แตกต่างกัน ประถมศึกษา สีขาวพริกไทยเมื่อสุกจะถูกแทนที่ด้วยสีเหลืองสด

ความหลากหลายยังสามารถต้านทานต่อโรคต่างๆ

♦ โบกาตีร์พริกไทยหลากหลายชนิดสุกปานกลาง ให้ผลผลิตดีเยี่ยม (คุณสามารถเก็บเกี่ยวได้ถึง 7-8 กิโลกรัมต่อตารางเมตร)

พืชมีขนาดเล็ก (การเจริญเติบโตถึงเพียงครึ่งเมตร) ซึ่งเหมาะสำหรับเรือนกระจก พุ่มไม้นั้นค่อนข้างทรงพลังและพัฒนาอย่างยอดเยี่ยม

ผลไม้ของ Bogatyr เป็นวีรบุรุษ (มีน้ำหนักมากถึง 190 กรัมยาวสูงสุด 17 ซม. และความหนาของผนังสูงสุด 7-8 มม.) ผลสุกสีแดงสด ฉ่ำมาก รสหวานและมีกลิ่นหอม

  • คุณภาพที่ดีคือความแข็งแกร่งของผลไม้ - พวกมันทนต่อการขนส่งได้อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ข้อดีของสายพันธุ์นี้ยังรวมถึงปริมาณสำรองจำนวนมาก วิตามินซีซึ่งพืชสะสมไว้ตลอดชีวิตที่มีสติสัมปชัญญะ

♦ ช็อกโกแลตสตาร์แห่งตะวันออก(ไฮบริด F1). พริกหวานหลากหลายชนิดในช่วงกลางฤดูที่มีพุ่มไม้ที่แตกกิ่งก้านสาขาสูงถึง 70 ซม. และผลไม้ที่สวยงามห้อยอยู่

มีขนาดใหญ่ มันวาว และสวยงามมากด้วยสีช็อกโกแลตที่หายาก ผลไม้มีขนาดใหญ่มาก (น้ำหนักถึง 350 กรัม) และผนังหนา (เปลือกหนา 1 ซม.) มี รสชาติเยี่ยมและความชุ่มฉ่ำ

  • คุณสมบัติที่โดดเด่นของพันธุ์ลูกผสมคือผลผลิตสูง (มากถึง 10 กก. ต่อ ตร.ม.) และคุณสมบัติภูมิคุ้มกันที่ดี

♦ มหัศจรรย์แห่งแคลิฟอร์เนียหนึ่งในพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่ชาวสวนของเรา พริกหวานชนิดนี้มีประโยชน์หลายอย่างสำหรับการทำอาหารและเป็นที่ชื่นชอบของชาวสวน

♦ ลาบลาโน่.นี่คือพริกหวานที่ใหญ่ที่สุดชนิดหนึ่ง โดยเฉลี่ยแล้วมวลของผลไม้สูงถึง 400-450 กรัม! และในสภาพที่เอื้ออำนวยเป็นพิเศษพริกไทยสามารถ "เติบโต" และผลไม้ที่มีน้ำหนัก 800 กรัมได้!

พวกมันหนาและแข็งแรงมาก นอกจากนี้ ลาบลาโนยังจะพึงพอใจกับความแก่เร็ว คุณภาพผลผลิตสูง ความต้านทานโรค และการดูแลที่ไม่โอ้อวด

  • อย่างไรก็ตามพุ่มไม้นั้นต่ำถึง 70 ซม. มันวิเศษมากที่ทารกเหล่านี้สามารถเติบโต "สัตว์ประหลาด" ที่แท้จริงได้ โลกผัก. ผลไม้ขนาดใหญ่มันวาวสีแดงเข้มมี รูปทรงกระบอกและมีรสหวานมาก

♦ แรปโซดี F1.ลูกผสมที่ดีสำหรับการปลูกในเรือนกระจก มันเป็นของสายพันธุ์ที่สุกเร็วและโดดเด่นด้วยไม้พุ่มที่ทรงพลัง

Rhapsody จะทำให้เราพอใจกับความไม่โอ้อวดที่ไม่เหมือนใคร - มันสามารถเกิดผลได้แม้ในสภาวะที่เลวร้ายที่สุด

ผลของพริกไทยจะยืดออก สีเขียวอ่อนเริ่มต้นจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเข้มเมื่อครบกำหนด ความหลากหลายสามารถต้านทานโรคและความเครียดได้ทุกชนิด

พันธุ์ที่ดีที่สุดสำหรับพื้นที่เปิดโล่ง

แต่ไม่เพียง แต่ "ชาวใต้" เท่านั้นที่สามารถทำให้เจ้าของพอใจด้วยกลิ่นหอม ผลไม้ฉ่ำ. พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ได้สร้างสายพันธุ์มากมายสำหรับเงื่อนไข พื้นโล่ง.

พริกหวานพันธุ์ที่ดีที่สุดสำหรับการใช้ชีวิตกลางแจ้งมีพุ่มขนาดเล็กที่ดูแลง่ายและ คุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมเย็นจัด ภูมิคุ้มกันดี

พริกหวานดังกล่าวไม่ต้องการที่พักพิงที่ซับซ้อนและใหญ่โตจากเราซึ่งเป็นพันธุ์ที่ไม่โอ้อวด

มาเลือกกันเลย

♦ พริกไทยพันธุ์.คุณสามารถเก็บเมล็ดจากมันเพื่อปลูกต่อไปได้ พันธุ์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ได้แก่ :

  • ของขวัญมอลโดวาพันธุ์กลางต้นพร้อมผลไม้สีแดงสดน่ารับประทาน (น้ำหนักถึง 70 กรัม)
  • ไทรทัน.ลักษณะต้นมีผลขนาดใหญ่ พริกของเขาซึ่งมีน้ำหนักมากถึง 150 กรัม สามารถเปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีแดงเข้มได้
  • กล้วยเล็บมือนาง. ความหลากหลายในช่วงต้นผลไม้รสหวานโดยเฉพาะสีเหลืองอ่อนโยนและอร่อยมาก
  • ผู้เล่นสายพันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูงพร้อมพุ่มไม้เตี้ยและทรงพลังที่ไม่ต้องการสายรัดถุงเท้ายาว ผลไม้ของผู้เล่นมีมวลถึง 150 กรัม
  • มิราจ.มีความแตกต่างในผลไม้ที่แข็งแรงซึ่งเหมาะสำหรับการบรรจุด้วยเปลือกที่แข็งแรง พริกไทยยังน่าสนใจในผลไม้หลากสีตั้งแต่สีขาวไปจนถึงสีแดงเข้ม
  • เรือลาดตระเวนหนึ่งใน พันธุ์ที่ดีที่สุดพริกหวานสำหรับบรรจุกระป๋อง มันมีผลไม้เล็ก ๆ (น้ำหนักของมันแทบจะไม่ถึง 70 กรัม) แต่มีผิวที่แข็งแรงและรสชาติที่กรอบอร่อย

♦ ไฮบริดพวกมันมีความทนทานต่อโรคภัยไข้เจ็บ สภาพอากาศเลวร้าย แมลงศัตรูพืช และโดดเด่นด้วยการดูแลที่ไม่โอ้อวด

  • แอตแลนติก F1เจ้าของสถิติของพริกกลางแจ้งในแง่ของขนาดผลไม้ พวกมันสามารถเติบโตได้ถึงครึ่งกิโลกรัม! ผลไม้ยักษ์มีผิวที่บางแตกต่างกันซึ่งเหมาะสำหรับสลัดแสนอร่อย
  • พระคาร์ดินัล F1นอกจากนี้ยังมีผลไม้ขนาดใหญ่แม้ว่าจะไม่ใหญ่มาก (น้ำหนักถึง 300 กรัม) ความหลากหลายนั้นดีด้วยการเก็บเกี่ยวเร็วและยอดเยี่ยมโดยไม่คำนึงถึงสภาพอากาศที่แปรปรวน
  • ปาฏิหาริย์สีส้ม F1สายพันธุ์นี้พอใจกับผลไม้สีเหลืองสดเนื้อหอมพร้อมเปลือกที่แข็งแรงมีน้ำหนักมากถึง 300 กรัม
  • มหัศจรรย์แห่งแคลิฟอร์เนีย F1พริกพันธุ์ต้นที่มีผลไม้ขนาดใหญ่ฉ่ำและมีกลิ่นหอมมากถึง 350-400 กรัม

ดังนั้นเราจึงใช้เวลาทำความรู้จักครั้งแรกกับผู้อยู่อาศัยในสวนของเรา

ฉันต้องการเชิญคุณผู้อ่านที่รักดูวิดีโอสั้น ๆ ที่แสดงให้เห็นว่าพริกวิเศษชนิดใดที่สามารถปลูกได้แม้ในภาคเหนือของรัสเซีย

คุณพร้อมที่จะรับของขวัญจากธรรมชาติที่ยอดเยี่ยมในแปลงของคุณแล้วหรือยัง? ถ้าพร้อมแล้ว พริกไทยรออยู่ข้างหน้าแล้ว ลากยาวจากเมล็ดเป็นพุ่มสวยงาม

วิธีปลูกพริกหวาน - เราจะพูดถึงเรื่องนี้ในบทความต่อไปนี้

พบกันเร็ว ๆ นี้ผู้อ่านที่รัก!

ในบรรดาคนรู้จักของฉันมีหลายคนที่งุนงงและไม่พอใจในข้อเท็จจริงที่ว่าพริกหวานของรัสเซียมีเหตุผลบางอย่างที่เรียกว่า "บัลแกเรีย" ไม่ใช่เซอร์เบีย, รัสเซีย, ยูเครนหรืออเมริกันเม็กซิกัน “แล้วใครคือชาวบัลแกเรียเหล่านี้? พวกเขาทำหน้าบูดบึ้งด้วยความเย่อหยิ่ง - ดูสิพวกเขายังกวาดล้างชาวกรีกภายใต้ตัวเองและเรียกพวกเขาว่าพวกเขาเอง “ เหนือสิ่งอื่นใดตามที่คนฉลาดเหล่านี้กล่าวว่าชาวบัลแกเรียมีความอวดดีที่ไม่อาจยอมรับได้ที่จะเฉลิมฉลองวันที่ 24 พฤษภาคมไม่ใช่ที่วงกลม - โรงเรียน - มือสมัครเล่น แต่ที่รัฐ ระดับประกาศว่าโอ้สยองขวัญและไม่เหมาะสมไม่ใช่วันสลาฟสากล แต่เป็นงานเขียนและวัฒนธรรมของบัลแกเรียเท่านั้น

ในทำนองเดียวกัน คนเหล่านี้บางคนวาดการเปรียบเทียบแบบประชดประชันในรูปแบบของ Petrosyan ระดับ 80 ตามที่ชาวโปรโต - บัลแกเรียเจ้าเล่ห์หลอกลวงอย่างทรยศต่อเส้นทางของพวกเขาในอินคา, มายันและอินเดียนแดงอื่น ๆ ในอเมริกาเหนือและใต้ หลังจากนั้นพวกเขาก็ลูบตัวเองด้วยความเชื่อมั่นของโคลัมบัสโดยใต้ผิวหนังพวกเขากลับไปที่โลกเก่าพร้อมกับเขาและนำผักนี้มาที่นี่รวมถึงโรคหนองในและซิฟิลิสด้วย

ในความเป็นจริงฉันได้พบหลายเวอร์ชันที่น่าเชื่อถือว่าทำไมในรัสเซียจึงเรียกพริกหวานที่มีผนังหนาว่า "บัลแกเรีย" ตามข้อแรก การแทรกซึมทางภาษานี้เกิดขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 17 และต้นศตวรรษที่ 18 พร้อมกับผู้ตั้งถิ่นฐานจากบัลแกเรียซึ่งได้รับอนุญาตให้ตั้งถิ่นฐาน Zaporozhye และ Bessarabia พวกเขานำเมล็ดพริกหวานมาด้วยซึ่งแพร่หลายไปแล้วในดินแดนของจักรวรรดิออตโตมันซึ่งผ่านโอเดสซาและรัสเซียใหม่เข้ามา ส่วนตรงกลางรัสเซียแล้วเป็นภาษารัสเซีย

รุ่นที่สองกล่าวว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นใกล้กับทศวรรษที่ 50-60 ของศตวรรษที่แล้วเมื่อบัลแกเรียซึ่งกลายเป็นสังคมนิยมในทันทีเริ่มจัดหาสินค้าเกษตรจำนวนมากไปยังตลาดสหภาพโซเวียตรวมถึงพริกไทยและสำหรับคำถามของผู้ซื้อ: "นี่คือผักชนิดใด (พริกไทย)" ผู้ขายในตลาดหรือในร้านค้ามักจะตอบว่า "บัลแกเรีย" ซึ่งหมายถึงประเทศต้นทาง นั่นคือสิ่งที่ดูเหมือนจะเริ่มต้นขึ้น


ฉันชอบรุ่นที่สองมากกว่า และทั้งหมดเป็นเพราะฉันรู้แน่นอนว่าทำไมเครื่องมือก่อสร้างและซ่อมแซมซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกว่าเป็น "เครื่องเฟล็ก" หรือ "เครื่องเจียร" ( เครื่องบดมุม)เริ่มเรียกเป็นภาษารัสเซียว่า "บัลแกเรีย" เท่านั้น

ความจริงก็คือในยุค 70 Glavbolgarstroy รัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ได้สร้างที่อยู่อาศัยและโรงงานอุตสาหกรรมอย่างหนาแน่นในดินแดนของสหภาพโซเวียตรวมถึงในสภาพอากาศที่ใกล้จะรุนแรง ช่างก่อสร้างชาวบัลแกเรียตัดอุปกรณ์โลหะด้วยเครื่องเฟล็กซ์ที่ผลิตในเยอรมัน และไม่ได้ตัดด้วยสิ่ว เลื่อยด้วยเลื่อยสำหรับโลหะ หรือตัดด้วยเครื่องเชื่อมและเครื่องตัดแก๊ส ตามธรรมเนียมในชิ้นส่วนเหล่านั้น อย่างรวดเร็ว เครื่องจักรโหยหวนเครื่องนี้ซึ่งผู้สร้างชาวบัลแกเรียจัดการได้อย่างมีชื่อเสียงมาก เช่นเดียวกับภรรยาที่ไม่พอใจของพวกเขาบนเนินเขา Staraya Planina หรือ Rhodopes ได้รับชื่อ "บัลแกเรีย" จากเพื่อนร่วมงานชาวรัสเซียของพวกเขา และจากนั้นก็พบที่ของมันในวงกว้าง ใช้.

ในบัลแกเรียลัทธิพริกไทย ขายอย่างกว้างขวางไม่เพียง แต่สด แต่ยังอยู่ในรูปแบบแห้ง จริงอยู่ที่บัลแกเรียในรูปแบบใหม่มันเกิดขึ้นเฉพาะในฤดูกาลเท่านั้นในหลายครัวเรือนจะมีการเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วงเพื่อใช้ในอนาคต เช่น ผลไม้แห้งหรือเห็ดป่าในรัสเซีย ยูเครน และเบลารุส ขอบคุณพระเจ้า ในเมืองหลวง คุณยังสามารถซื้อได้ในร้านค้า ซึ่งฉันได้ซื้อเมื่อเร็วๆนี้ที่โซเฟีย


กลิ่นของพริกไทยนี้น่าทึ่งมาก เมื่อเปิดบรรจุภัณฑ์ คุณจะสัมผัสได้ถึงความมีชีวิตชีวาและความอยากได้เครื่องบดจริงๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้หญิงที่มีชีวิต และไม่ใช่เครื่องบดมุมใน Far Northผลิตภัณฑ์นี้มีประโยชน์อย่างยิ่งใน โพสต์ที่ดีเมื่อไม่เพียงพอ กลิ่นรสและความรู้สึกของฤดูร้อน ดังนั้นฉันจะสาธิต 2 สูตรโดยใช้พริกหยวกแห้ง


พริกแห้งเท น้ำร้อนประมาณ 15-20 นาที


นี่คือสิ่งที่ดูเหมือนหลังจากผ่านไประยะหนึ่ง


วางกระทะ 2 ใบบนเตา สับกระเทียมหรือหัวหอม


ผัดกระเทียมเป็นเวลาห้านาที จากนั้นใส่แครอทลงไป เพิ่มพริกหยวกลงในกระทะกระเทียม


ผัดและเพิ่มถั่วต้มหากจำเป็นให้เติมน้ำซุปเล็กน้อยที่ปรุงไว้


ปรุงรสด้วยเครื่องเทศ พริกไทย และเกลือ


ผัดถั่วและปล่อยให้เย็น ในขณะเดียวกันเรามีส่วนร่วมในการเติมครั้งที่สอง - ใส่ข้าวที่ล้างแล้วลงในกระเทียมหอมทอด


จากนั้นเพิ่ม กะหล่ำปลีดองเคี่ยวประมาณ 10 นาทีแล้วใส่พริกขี้หนู


เคี่ยวต่ออีกประมาณ 20 นาที เติมน้ำตามต้องการ ตอนนี้ปรุงรสด้วยเผ็ด เย็นลงกันเถอะ


เราบรรจุพริกที่นิ่มแล้วด้วยการเติมสองประเภทหล่อลื่นจานอบ วางพริก โรยด้วยน้ำมัน ทีนี้มาเทกันบ้าง น้ำมะเขือเทศหรือน้ำที่แช่พริกแล้วส่งแบบฟอร์มไปที่เตาอบที่อุณหภูมิ 160 องศาปิดพริกด้วยกระดาษฟอยล์ นำเข้าอบประมาณ 50 นาที


รสชาติเป็นเลิศ ฉันชอบถั่วมากกว่า


คุณรู้ไหมว่าฉันเกี่ยวกับอะไร วันนี้เป็นวันแห่งการปลดปล่อยบัลแกเรียจากแอกของตุรกี ในความกตัญญูและความทรงจำนี้ยังคงมีอนุสาวรีย์ของซาร์ผู้ปลดปล่อยอเล็กซานเดอร์ที่ 2 ในใจกลางโซเฟียและที่ซึ่งซากศพของทหารรัสเซียและกองทหารรักษาการณ์ของบัลแกเรียพบส่วนที่เหลือ นอกจากอนุสาวรีย์เหล่านี้แล้ว Alyosha ยังได้รับการติดตั้งและจะยืนอยู่ใน Plovdiv เสมอและในใจกลางโซเฟียยังมีอนุสาวรีย์ กองทัพโซเวียตแม้ว่าบางครั้งพวกเขาจะถูกวาดโดยจอมวายร้ายก็ตาม มีความประหลาดอยู่ทุกที่เพราะแม้แต่ในรัสเซียคุณก็สามารถพบกับนาซีได้บ่อยครั้ง ในรัสเซียซึ่งสูญเสียผู้คนนับล้านด้วยน้ำมือของพวกนาซี!

แต่ไม่ thats จุด. สิ่งสำคัญคือเราค้นพบว่าทำไมพริกไทยถึงเรียกว่า "บัลแกเรีย"

พริกไทยบัลแกเรียเป็นแขกส่วนตัวในครัวของเรา เติมเต็มอาหารได้อย่างสมบูรณ์แบบทั้งในรูปแบบดั้งเดิมและในรูปแบบของเครื่องปรุงรส เรารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับวัฒนธรรมนี้ซึ่งเป็นที่รู้จักมาหลายพันปีหรือไม่?

ทำไมจึงเรียกว่าพริกหยวก?

ผักนี้ทั่วโลกเรียกว่าพริกหวาน แต่เฉพาะในรัสเซียและในพื้นที่หลังโซเวียต - บัลแกเรีย ประเด็นคือบัลแกเรียมีส่วนสำคัญในการคัดเลือกพืชชนิดนี้: นักปฐพีวิทยาได้เพาะพันธุ์ที่ประสบความสำเร็จหลายพันธุ์ สหภาพโซเวียตซื้อใน ปริมาณมากผักนี้มาจากประเทศสังคมนิยมที่เป็นมิตรซึ่งประชาชนเปลี่ยนชื่อพริกหวานเป็นบัลแกเรีย

ประวัติความเป็นมาของพริกหยวก

การขุดค้นการตั้งถิ่นฐานของอินเดียโบราณในเม็กซิโกและอเมริกากลาง นักโบราณคดีได้พบเมล็ดพริกหวาน ความคุ้นเคยอย่างเป็นทางการของชาวยุโรปกับผักนี้เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1492 เมื่อโคลัมบัสเดินทางไปอเมริกา จริงอยู่ที่พริกไทยตั้งแต่สมัยที่มีการค้นพบทางภูมิศาสตร์ครั้งยิ่งใหญ่นั้นค่อนข้างแปลกและแตกต่างจากมาตรฐานสมัยใหม่อยู่บ้าง

พริกไทยถูกนำไปยังรัสเซียจากตุรกีและอิหร่านในราวศตวรรษที่ 16 ในระดับอุตสาหกรรมเริ่มเติบโตในศตวรรษที่ 19 เท่านั้น

คุณสมบัติที่มีประโยชน์ของพริกหยวก

พริกบัลแกเรีย โดยเฉพาะสีแดง มีวิตามินซีจำนวนมาก ซึ่งมากกว่าผลไม้รสเปรี้ยวและลูกเกดในตัวบ่งชี้นี้ การบริโภคผักนี้เป็นประจำเป็นการป้องกันโรคหวัดและโรคระบบทางเดินหายใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พริกหวานเป็นผู้บันทึกปริมาณวิตามินเอซึ่งมีหน้าที่ในการมองเห็นที่คมชัด ผิวสวยและผมเงางาม

การรวมกันของวิตามินบีและ PP ช่วยต่อสู้กับอาการซึมเศร้า อาการนอนไม่หลับ โรคเบาหวาน, ช่วยเพิ่มความจำ, บรรเทาอาการบวม, กระตุ้นการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของร่างกาย

ผักชนิดนี้ช่วยป้องกันเส้นเลือดขอดและทำให้ผนังแข็งแรง หลอดเลือดเนื่องจากมีปริมาณวิตามินซีและรูตินสูง

พริกไทยบัลแกเรียจำเป็นสำหรับผู้ที่เป็นโรคโลหิตจางและโรคกระดูกพรุน ผักภูมิใจนำเสนอ เนื้อหาสูงโพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี ฟอสฟอรัส และเหล็ก

น้ำพริกหวานช่วยกระตุ้นกระเพาะอาหารและตับอ่อน ส่งเสริมความอยากอาหารเพื่อสุขภาพ และทำให้ความดันโลหิตเป็นปกติ

วิธีเลือกพริกหวาน

เมื่อเลือกพริกหยวกให้ใส่ใจกับมัน รูปร่าง. ผิวของผักควรเรียบเสมอกันโดยไม่มีจุดด่างดำและรอยย่นที่มองเห็นได้ ซึ่งบ่งบอกว่าพริกไทยวางอยู่บนเคาน์เตอร์มานานแล้ว ก้านสีเขียวควรยืดหยุ่น

กลิ่นหอมผลไม้ ผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นฉุนและน่าพึงพอใจถือว่ามีคุณภาพสูง หากคุณเจอตัวอย่างที่แหลมคม นี่ไม่ใช่การแต่งงาน แต่เป็นผลมาจากการผสมเกสรข้ามเมื่อพริกไทยหลากหลายสายพันธุ์เติบโตในทุ่งข้างเคียง

หากคุณซื้อผักเข้ามา บรรจุภัณฑ์พลาสติกตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีการควบแน่นบนฟิล์ม ช่วยลด "อายุ" ของพริกหยวกลงอย่างมาก

วิธีเก็บพริกหยวก

เพื่อให้พริกหยวกยังคงยืดหยุ่นคงรูปลักษณ์และ คุณภาพรสชาติให้เก็บไว้ในช่องผักของตู้เย็นหลังจากนำออกจากบรรจุภัณฑ์แล้ว เนื่องจากขาดอากาศผักจึงเริ่มเน่า

พริกหวานแช่แข็งได้ง่ายมากสำหรับฤดูหนาวใน 2 วิธี ผลไม้ควรล้างเอาหางออกเอาเมล็ดออกแล้วพับเป็นถ้วยหรือหั่นเป็นเส้นใส่ถุงและใส่ในช่องแช่แข็ง

พริกไทยบัลแกเรียในการปรุงอาหาร

พริกไทยบัลแกเรียเป็นส่วนหนึ่งของอาหารยุโรป, รัสเซีย, โอเรียนเต็ลและ อาหารเอเชีย. มันถูกเพิ่มลงในสลัด, หลักสูตรที่หนึ่งและสอง, ยัดไส้และแม้แต่ใส่ในพายเป็นไส้ เมื่อแห้งพริกหยวกจะกลายเป็นเครื่องปรุงรสที่เรารู้จักกันในชื่อปาปริก้า

บทความที่เกี่ยวข้อง