ทำไมพริกไทยถึงเป็น "บัลแกเรีย"? ประวัติความเป็นมาของพริกหวานหรือทำไมพริกหยวก

พริกหยวกเป็นแขกส่วนตัวในครัวของเรา มันเติมเต็มอาหารได้อย่างสมบูรณ์แบบทั้งในรูปแบบดั้งเดิมและในรูปแบบของเครื่องปรุงรส เรารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับวัฒนธรรมนี้ซึ่งรู้จักกันมาหลายพันปีแล้วหรือไม่?

ทำไมพริกถึงเรียกอย่างนั้น?

ผักนี้ทั่วโลกเรียกว่าพริกหวาน แต่เฉพาะในรัสเซียและหลังโซเวียตเท่านั้นคือบัลแกเรีย ประเด็นก็คือบัลแกเรียมีส่วนสำคัญในการเลือกพืชชนิดนี้: นักปฐพีวิทยาได้พัฒนาพันธุ์ที่ประสบความสำเร็จหลายพันธุ์ สหภาพโซเวียตซื้อมาจาก ปริมาณมากผักนี้มาจากประเทศสังคมนิยมที่เป็นมิตร ซึ่งเป็นสาเหตุที่ประชาชนเปลี่ยนชื่อพริกหวานเป็นพริกหยวก

ประวัติความเป็นมาของพริกหยวก

ขณะขุดค้นถิ่นฐานของชาวอินเดียโบราณในเม็กซิโกและอเมริกากลาง นักโบราณคดีพบเมล็ดพริกหวาน ชาวยุโรปเริ่มคุ้นเคยกับผักนี้อย่างเป็นทางการในปี 1492 เมื่อโคลัมบัสล่องเรือไปอเมริกา จริงอยู่พริกไทยตั้งแต่สมัยที่มีการค้นพบทางภูมิศาสตร์ครั้งยิ่งใหญ่นั้นค่อนข้างดุร้ายและค่อนข้างแตกต่างจากมาตรฐานสมัยใหม่

พริกไทยถูกนำไปยังรัสเซียจากตุรกีและอิหร่านประมาณศตวรรษที่ 16 ใน ระดับอุตสาหกรรมเริ่มปลูกในศตวรรษที่ 19 เท่านั้น

สรรพคุณของพริกหยวก

พริกหยวกโดยเฉพาะสีแดงมีวิตามินซีจำนวนมาก ซึ่งมากกว่าผลไม้รสเปรี้ยวและลูกเกดในตัวบ่งชี้นี้ การใช้งานปกติผักนี้ช่วยป้องกันโรคหวัดและโรคทางเดินหายใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พริกหยวก– เจ้าของสถิติปริมาณวิตามินเอซึ่งมีหน้าที่ในการมองเห็นแบบเฉียบพลัน ผิวสวยและผมเงางาม

การรวมกันของวิตามินบีและพีพีช่วยต่อสู้กับอาการซึมเศร้า นอนไม่หลับ และอาการต่างๆ โรคเบาหวาน,ช่วยเพิ่มความจำ,บรรเทาอาการบวม,กระตุ้นการฟื้นฟูความแข็งแรงของร่างกายอย่างรวดเร็ว

ผักชนิดนี้ช่วยป้องกันเส้นเลือดขอดและเสริมสร้างผนังให้แข็งแรง หลอดเลือดเนื่องจากมีกรดแอสคอร์บิกและรูตินในปริมาณสูง

พริกหยวกเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่เป็นโรคโลหิตจางและโรคกระดูกพรุน ผักสามารถอวดได้ เนื้อหาสูงโพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสี ฟอสฟอรัส และเหล็ก

น้ำพริกหวานช่วยกระตุ้นกระเพาะอาหารและตับอ่อน ส่งเสริมความอยากอาหารเพื่อสุขภาพ และทำให้ความดันโลหิตเป็นปกติ

วิธีการเลือกพริกหวาน

เมื่อเลือกพริกหยวกให้ใส่ใจกับมัน รูปร่าง. ผิวของผักควรเรียบเนียนไม่มีจุดด่างดำและริ้วรอยที่มองเห็นได้ซึ่งบ่งบอกว่าพริกไทยวางอยู่บนเคาน์เตอร์มาเป็นเวลานาน ก้านสีเขียวควรมีความยืดหยุ่น

กลิ่นผลไม้. ผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นฉุนและน่าพึงพอใจถือว่ามีคุณภาพสูง หากคุณเจอตัวอย่างที่แหลมคม นี่ไม่ใช่การแต่งงาน แต่เป็นผลจากการผสมเกสรข้ามเมื่อไร พันธุ์ที่แตกต่างกันพริกเติบโตในทุ่งใกล้เคียง

หากซื้อผักใน บรรจุภัณฑ์พลาสติกตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีการควบแน่นบนฟิล์ม ช่วยลดอายุการใช้งานลงอย่างมาก พริกหยวก.

วิธีเก็บพริกหยวก

เพื่อให้แน่ใจว่าพริกหยวกยังคงความยืดหยุ่น โดยคงรูปลักษณ์และรสชาติไว้ ให้เก็บไว้ในช่องเก็บผักของตู้เย็น จากนั้นนำออกจากถุงก่อน เนื่องจากขาดอากาศผักจึงเริ่มเน่า

พริกหวานแช่แข็งได้ง่ายมากในฤดูหนาวได้ 2 วิธี ควรล้างผลไม้ แกะก้านออก เมล็ดออก แล้วพับเป็นถ้วยหรือหั่นเป็นเส้น ใส่ถุงแล้วแช่ในช่องแช่แข็ง

พริกหยวกในการปรุงอาหาร

พริกหยวกรวมอยู่ในอาหารยุโรป รัสเซีย ตะวันออกและเอเชีย มันถูกเพิ่มลงในสลัดหลักสูตรที่หนึ่งและสองยัดไส้และใส่พายเป็นไส้ เมื่อพริกหยวกแห้งกลายเป็นเครื่องปรุงรสที่เราคุ้นเคยเช่นพริกหยวก

คุณสามารถค้นหาได้สองสามเวอร์ชันบนอินเทอร์เน็ต ตามเวอร์ชั่นแรก...

การแทรกซึมทางภาษานี้เกิดขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 17 - ต้นศตวรรษที่ 18 โดยมีผู้ตั้งถิ่นฐานจากบัลแกเรียซึ่งได้รับอนุญาตให้ตั้งถิ่นฐานในซาโปโรเชียและเบสซาราเบีย พวกเขานำเมล็ดพริกหวานมาด้วยซึ่งแพร่หลายไปแล้วในดินแดนของจักรวรรดิออตโตมันซึ่งมาถึงโอเดสซาและโนโวรอสซิยาในขณะนั้น ส่วนตรงกลางรัสเซียแล้วจึงเป็นภาษารัสเซีย

รุ่นที่สองบอกว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นใกล้กับช่วงทศวรรษที่ 50-60 ของศตวรรษที่ผ่านมาเมื่อบัลแกเรียซึ่งจู่ๆ ก็กลายเป็นสังคมนิยมเริ่มจัดหาผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของตนอย่างหนาแน่นรวมถึงพริกไทยให้กับตลาดสหภาพโซเวียต และสำหรับคำถามของผู้ซื้อ: "นี่คือผักชนิดใด (พริกไทย)" ผู้ขายที่ตลาดหรือในร้านค้ามักจะตอบว่า "บัลแกเรีย" ซึ่งหมายถึงประเทศต้นทาง ทุกสิ่งควรจะเริ่มต้นจากที่นั่น

แต่ในความเป็นจริงแล้วบ้านเกิดของพริกไทยนั้นอยู่ทางใต้ อเมริกาเหนือโดยเฉพาะเม็กซิโก ปัจจุบันสวนพริกหวานที่ใหญ่ที่สุดในโลกกระจุกตัวอยู่ที่นั่น แต่ในปี 1493 เมล็ดพริกไทยซึ่งชาวแอซเท็กปลูกนั้นถูกนำโดยกะลาสีเรือไปยังสเปนและจากที่นั่นไปยังประเทศอื่น ๆ ประเทศในยุโรป. ตามที่นักประวัติศาสตร์ชาวสเปน มิชชันนารี และพระภิกษุฟรานซิสกัน แบร์นาร์ดิโน เด ซาฮากุน ซึ่งทำงานและเสียชีวิตในเม็กซิโกกล่าวไว้ พริกไทยผัก– Capsicum annuum เป็นที่รู้จักในยุโรปอย่างน้อยตั้งแต่ปี 1529

ในปัจจุบัน พริกหวานมีการปลูกในเขตละติจูดเขตอบอุ่น กึ่งเขตร้อน และเขตร้อนทางตอนใต้ของทุกทวีป รวมทั้งในประเทศบัลแกเรียซึ่งผู้เพาะพันธุ์เคยพัฒนาพันธุ์ที่ออกผลขนาดใหญ่ จากนั้นพริกไทยโดยเฉพาะพันธุ์ยอดนิยมที่เรียกว่าคัมบา (ระฆัง) ในบัลแกเรียอพยพไปที่โต๊ะของพลเมืองโซเวียตโดยได้รับชื่อ "บัลแกเรีย" เป็นรางวัล ซึ่งยังไงก็ตามเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจสำหรับวิกิพีเดียบัลแกเรียเมื่อพิจารณาว่าเป็นข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ

ในบัลแกเรียเอง เขาเป็น "คนเป่าปี่หวาน" และในหลายประเทศในยุโรป แม้จะมี "ชื่อเล่น" ในท้องถิ่น แต่ชื่อปาปริก้าก็ยังคงติดอยู่ ทั้งพริกไทยและเครื่องเทศที่ใช้ทำปาปริก้า แม้ว่าพริกหวานในเดนมาร์กจะเรียกว่า peberfrugt (พริกผลไม้) แต่ในฝรั่งเศสเรียกว่า poivron พวกเขายังตั้งชื่อให้มันในละติจูดอื่นด้วย ตัวอย่างเช่นในบราซิลเรียกว่าพริกใหญ่ - Pimentãoในคอสตาริกา - พริกหวาน(ชิลี dulce). Bashkirs เห็นเพียง "kyzyl boros" เท่านั้น - พริกแดง และในบางภูมิภาคของรัฐอินเดียนา โอไฮโอ และเพนซิลเวเนีย ของอเมริกา ก็ยังมี... มะม่วงด้วยซ้ำ! แม้ว่าจะต้อง ผลไม้เมืองร้อนสิ่งนี้ไม่เกี่ยวข้องโดยตรง มันเป็นเพียงนิสัย ครั้งหนึ่งมะม่วงเคยมีขายเฉพาะในนั้นเท่านั้น กระป๋องด้วยเหตุนี้ชาวบ้านจึงเริ่มเรียกผักดองทุกชนิด ทั้งพริก มะม่วง

(1 การให้คะแนนเฉลี่ย: 5,00 จาก 5)

วันนี้มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันว่าพริกแดงดีต่อสุขภาพหรือไม่ รวมถึงพริกขี้หนูหรือในทางกลับกัน ที่จริงแล้วเป็นไปไม่ได้ที่จะตอบคำถามนี้อย่างไม่คลุมเครือ อย่างไรก็ตาม เป็นไปได้ที่จะทราบคุณสมบัติหลักของผลิตภัณฑ์และผลกระทบต่อร่างกายมนุษย์อย่างไร

พันธุ์และองค์ประกอบ

พริกแดงมีหลายพันธุ์ ทั่วไป:

• พื้น;
• บัลแกเรีย;
• เผ็ด;
• ชิลี;
• หวาน.

แต่ละคนมีลักษณะเฉพาะของตัวเอง แต่ไม่ว่าในกรณีใดผลิตภัณฑ์ควรจะแห้งเพราะการมีความชื้นจะทำให้เน่าเสียได้

พันธุ์ทั้งหมดมีส่วนประกอบดังต่อไปนี้

• สีย้อมธรรมชาติ
• น้ำมันหอมระเหย
• ขี้ผึ้ง;
• อัลคาลอยด์แคปไซซิน

ดังนั้นเมื่อใช้ในที่ที่ไม่ใช่- ปริมาณมากเครื่องเทศนี้จะมีผลในเชิงบวก องค์ประกอบทางเคมีเติมเต็มอย่างสมบูรณ์แบบ รสเผ็ดซึ่งทำให้ผลิตภัณฑ์เป็นหนึ่งในที่สุด อาหารเสริมที่มีประโยชน์อาหาร

ประโยชน์ของผลิตภัณฑ์

นี่คือสิ่งที่การใช้เครื่องเทศนี้อย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมสามารถทำได้:

• ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น
• อาหารอื่น ๆ จะถูกดูดซึมได้ดีกว่า
• ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
• หลอดเลือดได้รับการทำความสะอาดและยืดหยุ่นมากขึ้น
• ตับอ่อนถูกกระตุ้น;
• ความอยากอาหารดีขึ้น

นอกจากนี้การบริโภคเครื่องเทศยังช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจอีกด้วย บ้างเช่นกัน การวิจัยทางวิทยาศาสตร์บ่งชี้ว่าการบริโภคผลิตภัณฑ์นี้ช่วยเพิ่มการมองเห็น

สำหรับศีรษะล้าน

กิน การเยียวยาพื้นบ้านกับผลิตภัณฑ์นี้ ขั้นแรกให้ทำทิงเจอร์พริกไทย จากนั้นพวกเขาก็ผสมพันธุ์มัน จากนั้นจึงถูลงบนหนังศีรษะ ได้แก่ รากผม กระตุ้นการเจริญเติบโตของรูขุมขน นี่เป็นเพราะการหลั่งเลือดที่เกิดจากผักชนิดนี้ เทคนิคนี้ให้ใช้ยาที่ทำเองเป็นเวลายี่สิบนาทีสัปดาห์ละสองครั้ง

อย่างไรก็ตามเป็นการดีกว่าที่จะไม่นับว่าสิ่งนี้จะช่วยได้อย่างแน่นอน ศีรษะล้านเกิดได้จากหลายปัจจัย วิธีนี้จะไม่เพียงพอในทุกกรณี ดังนั้นจึงควรถูกมองว่าเป็นสิ่งเสริมมากกว่า นอกจากนี้ควรตรวจดูสาเหตุของศีรษะล้านและในขณะเดียวกันก็ถามแพทย์ของคุณว่าควรใช้วิธีรักษานี้หรือไม่

บางทีแพทย์อาจจะต่อต้านเพราะเทคนิคนี้ไม่น่าจะเข้ากันได้ดีกับการใช้ขี้ผึ้งชนิดเดียวกัน นั่นคือเหตุผลที่การรักษาศีรษะล้านนี้มีค่าควรแก่การกล่าวถึง แต่ยังห่างไกลจากสิ่งสำคัญ ในทางที่เป็นประโยชน์การใช้พริกแดง

เพื่อเป็นหวัด

จะกลายเป็นชาเขียวที่เติมเครื่องเทศและน้ำผึ้งลงไป ความช่วยเหลือที่ดีในปัญหาดังกล่าว อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ควรทราบ: ทั้งพริกไทยและน้ำผึ้งจะถูกเติมหลังจากชงชาแล้วเท่านั้น มิฉะนั้นผลกระทบทางความร้อนต่อพวกมันจะมากจนพวกมันจะสูญเสียไป คุณสมบัติที่เป็นประโยชน์. ส่วนผสมจะถูกเพิ่มเฉพาะเมื่ออุณหภูมิของเครื่องดื่มลดลงต่ำกว่าห้าสิบองศา

นอกจากนี้ยังมีวิธีลดอุณหภูมิร่างกายอีกด้วย เมื่อต้องการทำเช่นนี้ให้ผสมน้ำผึ้งด้วย พริกไทยป่น. ใช้ส่วนผสมทั้งสองในปริมาณเท่ากัน เมื่อผสมผลิตภัณฑ์ ให้ใช้หนึ่งช้อนชาสามครั้งต่อวัน

ไม่ โรคนี้จะไม่หายไปทันที แต่ในไม่ช้าผลจะสังเกตเห็นได้ชัดเจน สิ่งสำคัญคือต้องทำตามขั้นตอนอย่างสม่ำเสมอ จากนั้นการรักษาก็จะได้ผล เป็นการยากที่จะบอกว่าจะเพียงพอต่อโรคหวัดหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคมาก อย่างไรก็ตาม นี่เป็นตัวเลือกที่ดีในฐานะวิธีการเสริม

ผู้ช่วยด้านโภชนาการ

ประเด็นก็คือเป็นตัวเลข อาหารเพื่อสุขภาพหลายคนไม่ชอบมัน สิ่งนี้ใช้ได้กับซีเรียลหลายชนิดด้วย หากคุณต้องการแนะนำธัญพืชในอาหารของคุณซึ่งในตัวเองไม่เป็นที่พอใจคุณสามารถทดลองกับเครื่องเทศได้ และหนึ่งในนั้นคือผักชนิดนี้อย่างไม่ต้องสงสัย

ถ้านี้ ข้าวโอ๊ตแล้วมันก็คุ้มค่าที่จะใช้ ผักหวาน. สิ่งนี้จะไม่แตกต่างกับรสชาติของซีเรียล แต่จะให้อย่างใดอย่างหนึ่ง สีเผ็ด. ถ้านี้ บัควีท, ทางเลือกที่ดี– พริกหยวกแดง มันจะทำงานร่วมกับเขา จานที่ยอดเยี่ยมซึ่งจะอร่อยยิ่งขึ้นเมื่อรับประทานกับขนมปังข้าวไรย์

สุดท้ายนี้ถ้าเป็นสตูว์ผักใส่เนื้อพริกคงกำลังพอดี เครื่องเทศนี้จะเพิ่มสีสันใหม่ๆ ให้กับสตูว์ที่มีส่วนผสมไม่ดีอย่างไม่ต้องสงสัย พริกไทยนี้ยังมีประโยชน์อย่างอื่นอีกด้วย จานเนื้อ. เช่น เข้ากันได้ดีกับอาหารที่มีไก่อบ

บางทีบุคคลนั้นอาจตัดสินใจแล้ว อาหารเพื่อสุขภาพแต่เขาก็เบื่อกับมัน ผักนี้จะช่วยอีกครั้งด้วยรสชาติของมัน สิ่งนี้แม้จะเป็นทางอ้อม แต่ก็เป็นประโยชน์ต่อร่างกายเช่นกัน และหากเราคำนึงถึงความเร่งด่วน ผลประโยชน์ปรากฎว่าอาหารดังกล่าวมีประโยชน์เป็นสองเท่า

ทำไมเครื่องเทศถึงเป็นอันตราย?

มีหลายสถานการณ์ที่ควรหลีกเลี่ยงผักชนิดนี้ มีข้อห้ามเล็กน้อย แต่ก็มีนัยสำคัญพอที่จะไม่ละเลย

หากมีใครเสี่ยงผลประโยชน์ที่เขาอาจได้รับก็จะได้รับความเสียหายที่เกิดกับร่างกายด้วย

ปัญหาระบบย่อยอาหาร

หากบุคคลใดมีโรคประจำตัว ระบบทางเดินอาหาร,ควรหลีกเลี่ยง อาหารรสเผ็ดและส่วนประกอบหลักอย่างหนึ่งก็คือพริกไทย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์เวอร์ชันใดๆ โดยผู้ที่ประสบปัญหา:

• แผลในลำไส้เล็กส่วนต้น;
• แผลในกระเพาะอาหาร
• อิจฉาริษยา;
• โรคกระเพาะ

เครื่องเทศทำให้เกิดอาการแสบร้อน ซึ่งบางครั้งทำให้เกิดอาการไหม้ที่เยื่อเมือก ส่งผลให้มีเลือดออกภายในทางเดินอาหาร นี่เป็นสิ่งสำคัญ และผู้ที่มีปัญหาดังกล่าวควรหลีกเลี่ยงการรับประทานผักชนิดนี้อย่างเคร่งครัด

กลุ่มเสี่ยง

เป็นการดีกว่าที่จะไม่ใช้ผักนี้เป็นหลักการกับคนประเภทต่อไปนี้:

• สตรีมีครรภ์;
• เลี้ยงลูกด้วยนม;
• เด็ก.

ในสถานการณ์เช่นนี้ควรมองหาสิ่งทดแทนในรูปแบบของเครื่องเทศอื่น ๆ ที่ไม่มีข้อห้ามดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เพื่อให้มั่นใจถึงความปลอดภัยของเครื่องเทศบางชนิด ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการจะดีกว่า

ปฏิกิริยาภูมิแพ้ต่อผัก

หากมีคนแพ้เครื่องเทศนี้ อาจเป็นไปได้หลายอย่าง ผลกระทบด้านลบ. ซึ่งรวมถึงรอยแดงของผิวหนัง อาการคัน และการระคายเคืองตา

เพราะเมื่อไหร่. ปฏิกิริยาการแพ้ควรหลีกเลี่ยงพริกแดงจะดีกว่า มีเครื่องปรุงอื่นๆ อีกมากมายที่จะช่วยเพิ่มรสชาติให้กับอาหารและไม่เป็นอันตรายหรือทำให้ร่างกายไม่สบาย

สำหรับโรคริดสีดวงทวาร

ผู้ที่เป็นโรคนี้ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคผลิตภัณฑ์นี้ด้วย เมื่อโรคถึงขั้นอักเสบผักชนิดนี้บางครั้งอาจทำให้รู้สึกไม่สบาย ปัจจัยที่น่ารำคาญเพิ่มเติมในโรคดังกล่าวเป็นอันตรายเนื่องจากจะทำให้สถานการณ์ที่ยากลำบากอยู่แล้วรุนแรงขึ้น ทำให้อาการรุนแรงขึ้นและทำให้การฟื้นตัวล่าช้า

ปัจจัยที่ระคายเคืองกับโรคริดสีดวงทวารจะกระตุ้นการพัฒนาของปัญหา โรคริดสีดวงทวารอักเสบอยู่แล้วและอาหารร้อนแม้จะอยู่ในสภาวะย่อยแล้วก็จะระคายเคืองและไม่เพียงเพิ่มความรู้สึกไม่สบายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอาการอักเสบด้วย เป็นผลให้สามารถขยายขนาดและอาการห้อยยานของริดสีดวงทวารได้มากขึ้น

สำหรับปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ

ผักชนิดนี้เป็นอันตรายต่อโรคดังกล่าว เป็นไปได้ว่าสิ่งนี้จะทำให้เกิดการโจมตี นอกจากนี้ยังใช้กับผู้ที่ทุกข์ทรมานจากภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ, โรคหลอดเลือดหัวใจตีบและความดันโลหิตสูง

เป็นการดีกว่าสำหรับคนประเภทนี้ที่จะละทิ้งผลิตภัณฑ์ไปตลอดกาลแม้ว่าพวกเขาจะฟื้นตัวตามความเห็นและความคิดเห็นของแพทย์ก็ตาม หากสิ่งนี้เกิดขึ้นกับหัวใจของคุณ อาจมีอาการกำเริบได้และไม่ควรใช้สิ่งใดที่ทำให้เกิดปัญหาซ้ำอีก

มีอะไรอีกที่เป็นอันตรายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์?

นอกจากนี้ยังควรทราบด้วยว่าในกรณีที่ไม่มีปัญหาทั้งหมดที่ระบุไว้คุณอาจประสบปัญหาบางอย่างหากคุณบริโภคผักอย่างไม่ถูกต้อง หากคุณคำนึงถึงทั้งประโยชน์และโทษของพริกแดงต่อร่างกายมนุษย์ คุณสามารถใช้มันให้เกิดประโยชน์ได้อย่างง่ายดายตามความเหมาะสม แต่สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าเมื่อใดควรหยุดและใช้เครื่องเทศอย่างระมัดระวัง

ตัวอย่างบางส่วนมีความร้อนมาก ดังนั้นจึงมีของดังกล่าวอยู่ในจานและในเท่านั้น ปริมาณน้อย. หากรู้สึกแสบร้อนรุนแรงในปากของคุณ คุณไม่ควรคิดว่ามันเป็นเพียงนิสัย

สิ่งสำคัญคือต้องกำจัดความรู้สึกนี้โดยเร็วที่สุดเพื่อรักษาเยื่อเมือก น้ำไม่ได้ช่วยที่นี่ คุณจะต้องดื่ม kefir หรือนม หากผิวหนังหรือดวงตาของคุณไหม้ สบู่เหลวสูตรบางเบาสามารถช่วยได้

บทสรุป

โดยสรุป เป็นเรื่องที่คุ้มที่จะบอกว่าพริกแดงบางครั้งก็ดีต่อสุขภาพและบางครั้งก็เป็นอันตราย ขึ้นอยู่กับความอดทนของแต่ละบุคคลต่อผลิตภัณฑ์เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามไม่ว่าคุณสมบัติของร่างกายจะเป็นอย่างไรก็มีสิ่งหนึ่งที่ชัดเจน - การได้รับผลิตภัณฑ์นี้ในปริมาณที่มากเกินไปเป็นอันตราย

ดีขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นด้วย

อ่านบทความบล็อกอื่น ๆ

ชื่อพฤกษศาสตร์- พริกชี้ฟ้า.

ชื่อละติน— พริกประจำปี var. ปี L.

ตระกูล- Solanaceae.

ประเภท- พริกชี้ฟ้า.

รุ่นก่อน– แตงกวา พืชตระกูลถั่ว ผักราก พืชสีเขียว

แสงสว่าง- พืชที่ชอบแสง

การรดน้ำ- พืชที่ชอบความชื้น

ดิน– ดินที่มีโครงสร้างอุดมสมบูรณ์สูง

ลงจอด- เมล็ดพืช

พริกหยวกถือว่าเก่าแก่ที่สุด เขามีความยาวและ เรื่องราวที่น่าสนใจซึ่งมีอายุมากกว่า 9 พันปี เป็นเวลาหลายศตวรรษมาแล้วที่ผักหวานปลูกในมุมที่มีแสงแดดสดใสและอบอุ่นที่สุดของโลก เดิมทีมันถูกใช้เป็น ยา. ใช้ในการรักษาโรคหอบหืด โรคโลหิตจาง และเวียนศีรษะ และหลังจากนั้นไม่นานผู้คนก็เริ่มใช้เป็นอาหาร

ทำไมพริกไทยจึงเรียกว่าพริกหยวก?

พริกไทยมีถิ่นกำเนิดในอเมริกา แต่ในประเทศของเราผักนี้มักเรียกว่าบัลแกเรีย จากอเมริกาเขามายุโรป จากนั้นเขาก็เดินทางมายังตุรกีผ่านโปรตุเกส และจากที่นั่นไปยังบัลแกเรีย ชาวบัลแกเรียเองก็เรียกมันว่าพริกหวาน ในตอนท้ายของศตวรรษที่ 17 ชาวบัลแกเรียได้นำพริกหวานมาทางตอนใต้ของรัสเซีย ยูเครน และมอลโดวา ด้วยเหตุนี้พริกไทยจึงถูกเรียกว่าพริกหยวก

เมล็ดและใบพริกหยวก

เมล็ดพริกหยวกมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ส่วนใหญ่มักมีรูปร่างแบน พวกเขาอาจจะโค้งเล็กน้อย มักมีสีเหลืองซีด นอกจากนี้ยังอาจเป็นสีขาวและมีสีน้ำตาลเล็กน้อย ถ้าเก็บเมล็ดไว้. เงื่อนไขที่ดีจากนั้นการงอกของมันจะคงอยู่นานถึงสี่ปี พวกมันงอกเมื่อใด อุณหภูมิสูง. ตั้งแต่ +15°C ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจะสังเกตได้ที่อุณหภูมิ +20…25°C

ใบพริกหยวกนั้นเรียบง่าย ช่วงสีตั้งแต่สีเขียวอ่อนไปจนถึงสีเขียวเข้ม สามารถเลือกแบบเดี่ยวหรือประกอบเข้ากับเต้ารับก็ได้ การตัดของพวกเขาค่อนข้างยาว ขนาดและจำนวนใบขึ้นอยู่กับอายุของพืชและสภาพการเจริญเติบโต เช่น พืชที่ปลูกในนั้น พื้นที่เปิดโล่งมีใบยาวได้ถึง 10 ซม. ลูกผสมเดียวกันในเรือนกระจกสามารถมีใบขนาด 15 - 18 ซม. ใบค่อนข้างบอบบางและเปราะบางดังนั้นควรระมัดระวังในการดูแลพืชและระหว่างการเก็บเกี่ยว

พันธุ์และประเภทของพริกหวาน

ประเภทของพริกหยวกตามสีผลไม้: พริกหยวกแดง, เขียว, ส้ม, เหลือง, ดำ

พริกหยวกพันธุ์ต่อไปนี้สามารถแยกแยะได้:

แอตแลนติก F1ไฮบริดเหมาะสำหรับพื้นที่เปิดและปิด ผลไม้ ขนาดใหญ่เรียบยาวเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า สีจากสีเขียวเป็นสีแดง

บัลแกเรีย-79กลางฤดูให้ผลผลิตสูง มีรสชาติที่ดี ผลไม้มีขนาดใหญ่และมีรูปร่างเสี้ยม เมื่อสุกเต็มที่จะมีสีแดง

เอฟ1 ตัวเดียวพันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูงและสุกเร็ว ความสูงของพืชสามารถสูงถึง 65 ซม. ผลไม้มีผนังหนาและมีรูปร่างเป็นลูกบาศก์ อร่อยมากครับคุณแดง ยาว 12 ซม.

วิกตอเรียกลางฤดู. ความสูงของต้นสามารถสูงถึง 50 ซม. ผลมีรูปทรงกรวย ขนาดกลาง รสหวาน และมีผนังหนา สีแดงสดใส

พระคาร์ดินัล F1.การทำให้สุกเร็ว ความสูงของพืชคือ 100 ซม. จากช่วงเวลาของต้นกล้าจนกระทั่งเริ่มสุกงอมทางเทคนิค 80–90 วันผ่านไป ผลไม้ทรงลูกบาศก์ขนาดใหญ่ สีม่วง

ราศีเมษ F1.กลางฤดู. พืชสูง ผลไม้รูปปริซึมขนาดใหญ่หนักถึง 310 กรัม สีแดงเข้ม

ลาติน F1การทำให้สุกเร็ว ความสูงของพืชสูงถึง 1 ม. ผลไม้มีรูปทรงลูกบาศก์ มีน้ำหนักมากถึง 200 กรัม สีเป็นสีแดงสด ผนังหนาสูงสุด 1 ซม.

วินนี่เดอะพูห์.การทำให้สุกเร็ว สำหรับการได้รับ ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดควรปลูกในดินที่มีการป้องกัน ต้นเตี้ย ผลเป็นรูปกรวย สีแดง ปลายแหลม น้ำหนัก 50 – 70 กรัม

ม้าดำ.การทำให้สุกเร็ว พริกหยวกดำ เหมาะสำหรับพื้นที่เปิดและปิด ผลมีลักษณะเป็นทรงลูกบาศก์ที่ดีเยี่ยม คุณภาพรสชาติ. รับน้ำหนักได้ถึง 250 กรัม ผนังหนาและฉ่ำน้ำ ต้านทานโรคและให้ผลผลิตที่มั่นคง

อินดาโล F1.กลางต้น. ต้นไม้สูงเกิน 1 เมตร ผลไม้ทรงลูกบาศก์สีเหลืองสดใสขนาดใหญ่มีผนังหนา

ปาฏิหาริย์สีส้ม F1.การทำให้สุกเร็ว ผลไม้ทรงลูกบาศก์ขนาดใหญ่สีส้ม

คุณสามารถดูลูกผสมและพันธุ์โดยละเอียดได้ในรูปของพริกหยวก:

แกลเลอรี่ภาพ

โรคและแมลงศัตรูพืชที่สำคัญของพริกหยวก

ในการปลูกพริกหยวกให้ได้ผลผลิตที่อุดมสมบูรณ์และมีคุณภาพสูง คุณจำเป็นต้องรู้หลักการสำคัญของการดูแลมัน คุณควรตรวจสอบเตียงของมันอย่างต่อเนื่องเพื่อดูสัญญาณของโรคและการมีอยู่

ปัญหาทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับการปลูกผักในที่โล่งคือการเหี่ยวแห้ง สาเหตุของการเหี่ยวแห้งอาจเป็นโรคเชื้อรา verticillium โรคนี้สามารถมีได้สามรูปแบบ - สีน้ำตาล คนแคระ และสีเขียว รูปแบบสีน้ำตาลแสดงให้เห็นว่าใบไม้เปลี่ยนไป สีธรรมชาติเป็นสีน้ำตาล

พืชเริ่มล้าหลังในการเจริญเติบโตเล็กน้อยแล้วก็ตายไป ในรูปแบบแคระของโรครังไข่จะพังการปลูกก็ล้าหลังในการเจริญเติบโตและใบไม้ก็ร่วงหล่น เครื่องแบบสีเขียวมักมาพร้อมกับสีน้ำตาล พืชที่พัฒนาแล้วจะสูญเสียใบและแห้งสนิทหลังจากผ่านไปห้าวัน

เพื่อป้องกันไม่ให้โรคเกิดขึ้นจำเป็นต้องกำจัดเศษพืชและพันธุ์พืชที่ต้านทานต่อเชื้อราทั้งหมด

ศัตรูพืชพริกหยวกที่พบบ่อยที่สุดคือและ ในกรณีที่เพลี้ยอ่อนพืชถูกรบกวน ควรใช้ยาฆ่าแมลง มาตรการในการต่อสู้กับไรเดอร์ - ฉีดพ่นพืชด้วยสารละลายหัวหอม, กระเทียม, สบู่เหลวและดอกแดนดิไลอัน

ผักอาจได้รับผลกระทบจากทากเปล่า เพื่อหลีกเลี่ยงการปรากฏตัวของพวกเขาจำเป็นต้องรักษาเตียงให้สะอาด หากปรากฏขึ้นการปลูกพืชจะต้องผสมเกสรด้วยปูนขาวหรือฝุ่นยาสูบ

(adsbygoogle = window.adsbygoogle || ).push()); —>

ในหน้านี้เราจะบอกคุณทุกอย่างเกี่ยวกับพริก พันธุ์ การเตรียมการ และอื่นๆ อีกมากมาย

Chushkata lyuta, pak lyuta (สุภาษิตบัลแกเรียเกี่ยวกับพริกไทย)

ไพเพอร์บัลแกเรีย

ลองคิดดูว่าพริกหยวกเป็นผลไม้ชนิดใด (หรือเบอร์รี่?) และรับประทานกับอะไร ;-)

ในชื่อเรื่องของหน้าฉันเขียนว่า "พริกหยวก" ในภาษาบัลแกเรียฟังดูและแปลว่า "บัลการ์สกาไพเพอร์" หากคุณแปลตามคำพูดมันก็เป็นเช่นนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วเกี่ยวกับพริกหยวกในบัลแกเรียพูดแตกต่างออกไป และแม้แต่นักแปลของ Google เมื่อแปลจากภาษาบัลแกเรียเป็นภาษารัสเซีย ก็ยังแจกคำว่า "ไพเพอร์" โดยไม่เว้นคำว่า "บัลแกเรีย" เช่นเดียวกับในเรื่องอื่นๆ จากภาษารัสเซียเป็นภาษาอังกฤษ ผู้แปลก็จะให้คำว่า "ไพเพอร์" เช่นกัน โดยไม่มี คำว่า "บัลแกเรีย" พริกหยวกและพริกอื่นๆชื่ออะไร? ประเทศต่างๆ? คนอเมริกันและอังกฤษเรียกง่ายๆ ว่าพริกไทย โดยเพิ่มสีด้วยพริกแดงและพริกเขียว ชาวออสเตรเลีย มาเลเซีย และชาวนิวซีแลนด์เป็นพริก (จากชนเผ่าทางชีววิทยา - พริกในสกุล Solanaceae) ยุโรปเรียกพริกไทยว่าเป็นเครื่องเทศ - ปาปริก้า ในฮอลแลนด์ การเติมสีจะทำให้ได้พริกหยวก grouene หากเป็นสีเขียว และพริกปาปริก้าเจลหากเป็นพริกไทยเหลือง ในฝรั่งเศส พริกไทยมีเสียงเหมือน - poivron, piment, ในบราซิล - พริกไทยpimentão, ในพริกหยวกอาร์เจนตินา - morron และในพริกเขียวของอียิปต์ - filfil akhdar

ทำไมต้องพริกหยวก?

พริกหยวกเรียกเฉพาะในรัสเซียหรือในวงกว้าง อดีตสหภาพโซเวียตประชากรที่พูดภาษารัสเซีย และทั้งหมดเป็นเพราะก่อนหน้านี้ ในยุคสังคมนิยมที่พัฒนาแล้ว ในสหภาพโซเวียต บัลแกเรียเป็นซัพพลายเออร์หลักของพริกไทย และนั่นคือที่มาของมัน ชื่อยอดนิยมพริกไทย - พริกหยวก อย่างไรก็ตามในสหภาพโซเวียตไม่เพียง แต่เรียกว่าพริกไทยเท่านั้น แต่ยังเรียกว่าเครื่องบดมุมซึ่งนิยมเรียกว่า "เครื่องบด" ตอนนี้เรามาดูกันว่าวิกิพีเดียผู้รอบรู้บอกเราเกี่ยวกับพริกไทยชนิดต่างๆ อย่างไร

สกุลและประเภทของพริกไทย (รวมถึงพริกหยวก)

มีรสขมเผ็ด (และมาก!) และหวาน โดยรวมแล้ว “พริก” ซึ่งเป็นพืชสกุลหนึ่งมีราคาเพียงสิบสตางค์ มีประมาณ 1,500 พันธุ์! (ว้าว มันเยอะมาก) ฉันจะพยายามระบุประเภทหลักและประเภทของพริกไทยซึ่งเรียกทางวิทยาศาสตร์ (ในภาษาละติน) Piper หรือเรียกง่ายๆว่า Pepper:

Pepper เป็นพืชสกุลหนึ่งในวงศ์ Pepperaceae ซึ่งมีมากกว่า 1,500 สายพันธุ์ ตั้งแต่สมุนไพรไปจนถึงพุ่มไม้และเถาวัลย์

พวกมันเติบโตในเขตร้อนเป็นหลักเช่นเดียวกับในอเมริกาเขตร้อนและ เอเชียตะวันออก. อย่างไรก็ตาม พริกหยวก "ของเรา" ไม่ได้อยู่ที่นี่ คุณสมบัติอีกอย่างของพริกไทย (ไม่ใช่เพื่ออะไรที่ "คนแกร่ง" เรียกอีกอย่างว่า "พริกไทย") ก็คือพวกมันมักจะครองพืชพรรณที่เหลือ ผลของพืชพริกไทยมักจะมีรูปร่างกลมคล้ายถั่วและถูกเลี้ยงในธรรมชาติโดยนกหลายชนิด สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก (พวกมันจะไม่กินเผ็ดได้อย่างไร?) ฉันจะแสดงรายการพริกไทยสกุลเพียงบางส่วนจาก 1,500 สายพันธุ์:

ไพเพอร์ นิกรัม

พืชที่มีชื่อเสียงที่สุดที่ปลูกเพื่อผลมีการบริโภคเครื่องเทศทั้งในถั่วและในรูปแบบพื้นดิน มันเติบโตในอินเดียในรูปแบบของเถาวัลย์สูงถึง 15 เมตร ให้ผลปีละ 2 ครั้งเป็นเวลา 25-30 ปี สารร้อนในพริกไทยคืออัลคาลอยด์ไพเพอรีน (5-9%) เพิ่มความอยากอาหารส่งเสริมการย่อยอาหาร

คิวบา

Piper cubeba ใช้น้อยทั้งในยุโรปและรัสเซีย มันเติบโตเป็นไม้พุ่มปีนเขาในอินโดนีเซีย - บนเกาะชวาสุมาตราและบอร์เนียว มีกลิ่นหอมมากที่สุดในบรรดาพริกที่มีอยู่ทั้งหมด ชาวอินเดียโบราณใช้มันใน ยาพื้นบ้านสำหรับการรักษาระบบทางเดินปัสสาวะ ปัจจุบันในยุโรปมีการใช้ในด้านเภสัชกรรม แทนที่จะเป็นไพเพอรีน (สีดำ p.) ประกอบด้วยคิวบ์บินและสาระสำคัญ (12%) พร้อมกลิ่นของการบูร

คาวาคาวาหรือทำให้มึนเมา

ไพเพอร์ เมธิสติคัม - พืชที่น่าสนใจซึ่งใช้ราก ชาวโพลีนีเซียนเคี้ยวรากของพริกไทยนี้มานานกว่า 2,000 ปีแล้ว ซึ่งมีผลทำให้มึนเมา ชาจากพืชชนิดนี้เป็นที่นิยมมากในอเมริกา เนื่องจากมีฤทธิ์ผ่อนคลายและมีฤทธิ์บำรุง ในทางการแพทย์สารสกัดทำจากรากซึ่งมีฤทธิ์สงบเงียบและถูกสะกดจิต

ฉันกินเข้าไปและหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง คุณก็นอนหลับสนิท และเมื่อคุณตื่นขึ้น คุณรู้สึกว่าคุณนอนหลับเพียงพอแล้ว คุณจะตื่นตัวและกระตือรือร้น แต่ไม่สามารถใช้บ่อยได้ สารสกัดทำจากแอลกอฮอล์ เอทานอล หรืออะซิโตนและใช้น้ำน้อย สิ่งนี้ส่งผลต่อตับ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมในหลายประเทศ: ยูเครน รัสเซีย สารสกัดพริกไทยคาวาคาวาจึงเป็นสิ่งต้องห้าม และในรัสเซียโดยทั่วไปจัดเป็นสารที่มีศักยภาพและเป็นพิษ การซื้อจะถือเป็นของเถื่อน

พริกยาว

Piper longum - เช่น cubeba ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในอินโดนีเซีย และเช่นเดียวกับพริกไทยดำ มีส่วนประกอบของ Piperine ผลไม้มีความยาว (ประมาณครึ่งหนึ่งของก้านไม้ขีดไฟ) และใช้เป็นเครื่องเทศในอินเดีย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย

โลลอต

Piper Lolot ยังเป็นเครื่องเทศที่หายากในยุโรป ซึ่งส่วนใหญ่ใช้โดยชาวเวียดนาม ไทย และลาวโดยใช้ใบ ใช้สำหรับห่อเนื้อในการปรุงอาหารหรือเป็นยาป้องกันงูกัด เพื่อรักษาอาการอักเสบและอาหารไม่ย่อย

พริกเป็นพืชสกุล Solanaceae (Capsicumaceae)

พริกเหล่านี้เป็นเหมือนดิน (ขออภัยในการเปรียบเทียบ) และผัก (พริกหยวกก็เป็นหนึ่งในนั้น), พริกป่น (พริก, ร้อน, ขม), เบอร์รี่, จีน (ฮาบาเนโร), pubesense ชื่อสามัญพริกเหล่านี้เป็นพริก มีตั้งแต่ 31 ถึง 40 ประเภท:

พริกแดงเผ็ดหรือที่เรียกว่าพริก

ไพเพอร์ ประจำปี - รสไหม้ฝักเล็ก พริกป่น, ที่สุด พันธุ์เผ็ดเรียกว่าพริก พริกไม่ได้มาจากประเทศชิลี แต่มาจากภาษาแอซเท็ก และพริกก็แปลว่าสีแดง มีกลิ่นฉุนมากกว่าผักจากแคปไซซิน พริกแดงมีวิตามินซี เอ บี โพแทสเซียม แมกนีเซียม และธาตุเหล็กจำนวนมาก หากคุณกัดมากเกินไปกะทันหัน พริกไทยร้อนถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีประโยชน์ที่จะล้างความรู้สึกแสบร้อนด้วยน้ำคุณต้องดื่มนมหรือกินโยเกิร์ต ในทางการแพทย์พวกเขาทำแผ่นพริกไทย พริกแดงใช้สำหรับอาการช็อก หัวใจวาย และเลือดออก โดยเฉพาะเลือดออกในกระเพาะอาหาร การไหลเวียนโลหิตที่ขาไม่ดีจะรักษาด้วยการอาบน้ำร้อนพร้อมสารละลายพริกไทย

พริกจีนหรือที่เรียกว่าพริกฮาบาเนโร

Piper Chinense เป็นผลไม้ขนาดเล็กที่มีรูปร่างไม่สม่ำเสมอและมีความคมที่สุดในบรรดาพืชตระกูลถั่ว นักวิทยาศาสตร์เชื่อผิดว่าพริกหยวกมาจากประเทศจีนจึงเป็นชื่อนี้ แต่บ้านเกิดของมันคืออเมริกาใต้ เติบโตอย่างอิสระในบราซิล โคลอมเบีย เม็กซิโก และแคริบเบียน และชอบภูมิอากาศแบบเขตร้อน

พริกผัก

Piper annuum - นี่คือพริกหยวกนอกจากนี้ยังมีหลายพันธุ์ทั้งหวานและขม ( รสฉุนเนื่องจากสารแคปไซซิน) บ้านเกิดของผักพริกหยวกไม่ใช่ประเทศบัลแกเรีย แต่เป็นอเมริกา ซึ่งแพร่หลายอย่างมากในพื้นที่เขตร้อน

การปลูกพริกหวาน

อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการปลูกพริกหยวกคือ 18 - 25 องศา พริกชอบดินที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง (เช่นในบัลแกเรีย) และความชื้น พริกหวานผลิตในระดับอุตสาหกรรมในยูเครน, คอเคซัสเหนือ, ทรานคอเคเซีย, มอลโดวา, เอเชียกลางและตามธรรมชาติในบัลแกเรีย ในรัสเซียปลูกในแปลงครัวเรือนเป็นหลักและในกระถางที่บ้าน (ผลเล็ก) เป็นไปได้มากว่าพริกหยวกจะเติบโตในโรงเรือนและโรงเรือนที่ปลูกเป็นต้นกล้าหรือเมล็ดในบริเวณที่มีอากาศอุ่นกว่า ปลูกได้ 40-60,000 ต้นต่อ 1 เฮกตาร์ พริกขี้หนูเก็บเกี่ยวปีละ 2 ครั้งสามารถเก็บเกี่ยวได้ 200 เซ็นต์ต่อเฮกตาร์ พริกหวานเก็บเกี่ยวได้ 4 ถึง 15 ครั้งต่อฤดูกาล ให้ผลผลิตสูงถึง 300 เซ็นต์ต่อเฮกตาร์ แมลงศัตรูพืช: caradrina, มะเขือเทศหรือหนอนเจาะสมอฝ้าย, ไส้เดือนฝอย, เน่า, ไวรัส ผลไม้ที่พบมากที่สุดคือผลไม้ทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ หนา สมบูรณ์ มีหลายสี ได้แก่ แดงสด เหลือง เขียว และขาว (สุก ผลไม้สีเขียว). ในบัลแกเรียพวกเขาเรียกผลไม้นี้ว่า - หมู!

พริกหยวกพันธุ์ต่างๆ

ในบัลแกเรียพริกหยวกพันธุ์ต่อไปนี้แพร่หลายมากที่สุด:

• กัมบะ
• คาเปีย
• ซิวเรีย
• ราตุน
• หมู Chorbadzhiysk

สีพริกหยวก

พริกอาจเป็นสีแดง เหลือง ส้ม เขียว ม่วง และแทบไม่มีสีดำเลย อันไหนดีกว่ากัน?
พริกหยวกไม่สุกจึงมีรสชาติเปรี้ยวและขมเล็กน้อย พริกเขียวไม่เหมาะกับการปรุงอาหารมากนัก สตูว์ผัก, หลังจาก การประมวลผลการทำอาหารอาจมีรสขมเล็กน้อย พริกเขียวมีไฟโตสเตอรอลมากที่สุดซึ่งช่วยลดระดับ คอเลสเตอรอลที่ไม่ดีในเลือดมนุษย์ อีกทั้งยังมีแคลอรี่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับพริกสีอื่นๆ

ผลไม้สีแดงมีรสหวานมากกว่าผลไม้อื่นๆ นอกจากนี้ พริกแดงยังมีวิตามินซีมากที่สุด พริกจะกลายเป็นสีแดงเนื่องจากมีแคโรทีนและไลโคปีนในปริมาณมาก

ใน พริกส้มน้อยกว่าธาตุ C ในพริกแดงเล็กน้อย

พริกเหลืองมีแคโรทีนอยด์อยู่เป็นจำนวนมาก สีเหลือง. ใน พริกไทยเหลืองโพแทสเซียมมีฤทธิ์เหนือกว่าเมื่อเทียบกับดอกพริกหยวกชนิดอื่น ขอแนะนำสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ และสีเหลืองยังมีปริมาณฟอสฟอรัสสูงกว่าสีอื่นๆ (สำหรับกระดูก ไต และการเจริญเติบโตของเซลล์)

ผลไม้มีสีม่วงเข้มและสีดำสนิท มีรสชาติเหมือนสีเขียว คุณต้องกินพริกสดเพราะมันเปลี่ยนเป็นสีเขียวเมื่อทอดหรือตุ๋น

เกือบดำก็ไม่ดำขนาดนั้น พริกไทยจริงซึ่งเติบโตในอินเดียและประเทศที่อบอุ่นอื่น ๆ และจากที่ใดมาก เครื่องเทศร้อน(เครื่องเทศเตรียมจากพริกไทยขาวด้วย)

พริกหยวกทุกสีเหมาะสำหรับการบริโภคสดและในสลัด

ส่วนผสมของพริกหยวก

พริกหยวก 100 กรัม ประกอบด้วย - 20 แคลอรี่, คอเลสเตอรอล 0 มก., วิตามินซี 80 มก. (สูงสุดไม่เกิน 500 มก.), คาร์โบไฮเดรต (แคปไซซิน, น้ำตาล 2.4 ก.) 4.6 ก., โปรตีน 0.9 ก., แคโรทีน 14 มก., แคลเซียม 10 มก., วิตามิน P, B1, B2, สารจำเป็น (1, 5%) ไขมัน 0.2 กรัม ( น้ำมันไขมันในเมล็ดมากถึง 10%) เกี่ยวกับวิตามินต้องบอกว่าพวกเขาไม่ได้เป็นแหล่งพลังงานสำหรับร่างกายของเราพวกเขาเพียงควบคุมการเผาผลาญมีส่วนร่วมในกระบวนการทางเคมีต่าง ๆ ในร่างกายจึงช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างถูกต้องและเจ็บป่วยได้ในระดับที่น้อยลง นอกจากนี้ วิตามินยังสามารถละลายในน้ำได้ (นี่คือวิตามิน C และวิตามินบีทั้งหมด) และละลายในไขมัน (นี่คือ A, E, D, K) อินเทอร์เน็ตเต็มไปด้วยข้อมูลเกี่ยวกับวิตามิน

เน้นเฉพาะวิตามินซีซึ่งมีมากในพริกหยวกเท่านั้น ธาตุ C เกี่ยวข้องกับกระบวนการหายใจทางผิวหนัง การแลกเปลี่ยนบล็อคโปรตีน และช่วยดูดซับคาร์โบไฮเดรต “C” เรียกอีกอย่างว่ากรดแอสคอร์บิก วิตามินต้านสกอร์บิวติก และวิตามินต้านสคอร์บิวติก วิตามินซีเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย รักษาคอลลาเจน - โปรตีนที่เป็นพื้นฐานของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (เสริมสร้างหลอดเลือด เส้นเอ็นของมนุษย์) “C” ทำให้คอเลสเตอรอลในเลือดของเราเป็นปกติ ช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็ก และทำให้เลือดเป็นระเบียบ นอกจากนี้ยังช่วยให้ร่างกายผลิตอะดรีนาลีน ดังนั้นโดยเฉลี่ยแล้ว บุคคลหนึ่งต้องการตั้งแต่ 30 มก. (ทารก) ถึงประมาณ 110 มก. (หญิงตั้งครรภ์จะขาดวิตามินซีประมาณ 65% ในระหว่างตั้งครรภ์)

เราต้องการ C มากแค่ไหน ผลิตภัณฑ์ต่างๆ? อันดับแรกคือโรสฮิป ซึ่งมีประมาณ 470 มก. (แห้งมากถึง 1200 มก.) แต่อันดับสองที่มีเกียรติคือพริกหยวก "ของเรา" สุดโปรด 250 มก. จากนั้นอันดับที่สามคือลูกเกดดำและทะเล buckthorn อย่างละ 200 มก. จากนั้นที่เหลือทั้งหมดมะนาวผักชีฝรั่งพอร์ชินี เห็ดแห้ง กะหล่ำดาว ผักชีลาว กระเทียมป่า โรวันแดง ฯลฯ ปริมาณระบุจากผัก 100 กรัม โปรดทราบว่าพริกหยวกแดงมีวิตามินซีมากกว่าพริกหยวกสีเขียว และยังมีวิตามินซีมากกว่าในเมล็ดและใกล้ก้านด้วย

และการใช้งานโดยทั่วไป ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติเย็นกว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่โฆษณาต่างๆ แต่ควรกินอาหารสด (รวมถึงพริกหยวก) จะดีกว่า เนื่องจากมีวิตามินซีมากกว่าอาหารที่ปรุงด้วยความร้อน

วิธีเก็บวิตามินซีที่ชาญฉลาดที่สุดคืออะไร? พริกหยวก? ศัตรูหลักคือออกซิเจน ดังนั้น หากโดนพริกไทย การรักษาความร้อนแล้วลดการเข้าถึงออกซิเจน - ปิดฝา ไขมันยังป้องกันไม่ให้ออกซิเจนซึมเข้าไปข้างในอย่าปรุงนาน พยายามปรุงพริกไทยให้สุกโดยไม่ต้องหั่น เพราะเมื่อหั่นผลไม้ ออกซิเจนจะทำลายวิตามินอย่างแข็งขัน หมายเหตุอีกประการหนึ่ง: ในสภาพแวดล้อมที่เป็นด่างและเป็นกลาง วิตามินจะถูกทำลายมากกว่าในสภาพแวดล้อมที่เป็นกรด พริกเข้า กะหล่ำปลีดองแอปเปิ้ลจะเก็บวิตามินซีได้ดีขึ้น และอย่าเก็บพริกไว้ในน้ำนานๆ ยังเป็นศัตรูตัวฉกาจของวิตามินอีกด้วย ศัตรูตัวสุดท้ายที่ลืมบอกไปคือการสูบบุหรี่การสูบบุหรี่จำเป็นต้องได้รับวิตามินซีเพิ่มขึ้นจึงจะเป็นปกติในร่างกาย

พริกกระป๋อง:

พริกดอง:

• Adjika กับพริกหยวก
• พริกหวานดอง

เครื่องปรุงรสพริกไทย:

พริกหยวกย่าง:

พริกไทยสำหรับฤดูหนาว

พริกไทยสดสามารถแช่ในตู้เย็นได้นานสูงสุดหนึ่งสัปดาห์ ในขณะที่พริกไทยสดจางลงและคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ลดลง ทำให้เกิดคำถามต่อไปนี้ วิธีเตรียมและเก็บพริกสำหรับฤดูหนาว? สูตรทำพริกไทยสูตรหนึ่งเมื่อมีเพียงพอคือ:

เราใช้พริกหยวกแล้วตัด "ฝา" ออกแล้วเอาเมล็ดออกจากซากพริกไทยในขณะที่พยายามรักษาซากพริกไทยไว้ จากนั้นเราก็หย่อนชิ้นส่วนลงในน้ำเดือดเป็นเวลาครึ่งนาทีเพื่อไม่ให้พริกไทยคงรูปร่างไว้ไม่งอพื้นหรือแตกหัก หลังจากที่ซากพริกไทยเย็นลงแล้ว เราก็ใส่ซากหนึ่งเข้าไปในอีกซากหนึ่ง เพื่อให้ใช้พื้นที่น้อยลงและเก็บรักษาไว้ได้ดีขึ้น จากนั้นเราก็ใส่ซากพริกไทยเรียงเป็นแถวยาวพร้อมกับ "ฝา" ของมันลงในถุงที่สะอาด (ควรเป็นถุงที่แน่นหนา) แล้วนำไปแช่ในช่องแช่แข็ง

ในเวลาเดียวกันให้คำนึงถึงปัจจัยนี้ด้วย - บรรจุภัณฑ์ควรมีส่วนที่คุณต้องการเพื่อไม่ให้ส่วนที่เหลือแข็งตัวเป็นครั้งที่สอง การแช่แข็งซ้ำๆ จะฆ่าคนได้เป็นจำนวนมาก องค์ประกอบที่เป็นประโยชน์ในพริกไทย เพียงเท่านี้ ในฤดูหนาวก็นำออกมาละลายน้ำแข็งได้ (ควรนานกว่านั้นที่ อุณหภูมิห้องและไม่ใช้ไมโครเวฟหรือในน้ำ) และเตรียมอาหารจานโปรดจากพวกเขา รวมทั้งไส้ ซากทั้งหมดและมีฝาปิด

การอบแห้งพริกหวาน

พริกสามารถตากแห้งได้อย่างสมบูรณ์แบบทั้งร้อนและหวาน ดูเกี่ยวกับการอบแห้งพริกหวาน หน้านี้อธิบายวิธีการตากพริกหยวกหวานพร้อมวิดีโอ